โครงปลาวาฬยักษ์ ที่พบนี้เป็นวาฬขนาดใหญ่ ชาวบ้านเรียกว่า "ปลาวาฬแกลบ" ชื่อสามัญว่า ปลาวาฬบรูด้า อยู่วงศ์ปลาวาฬแกลบ (Family BALAENOPTERIDAE) แต่ไม่สามารถระบุชนิดได้แน่นอน ปลาวาฬชนิดนี้จะหากินอยู่บริเวณอ่าวไทย แต่พบได้ไม่บ่อยนัก ซึ่งปลาวาฬพวกนี้มักจะพบเป็นฝูงประมาณ 10 ตัวขึ้นไป ปลาวาฬยักษ์นี้ไม่สามารถระบุเพศได้ มีขนาดยาวกว่า 12 เมตร หนักกว่า 10 ตัน ถูกพบที่ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน ปากคลองที่ 5 หมู่ 2 ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง จ.ตราด โดยกลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน คาดว่าปลาวาฬตัวนี้น่าจะตายมาตั้งแต่ 29 เมษายน 2544 ซากปลาวาฬที่พบนอนตะแคงด้านซ้าย บริเวณหางมีเนื้อเปื้อยยุ่ย หลุดลอยอยู่กับผิวน้ำทะเล บริเวณผิวหนังสีดำได้หลุดออกมา หลังจากพบซากปลาวาฬแล้ว ทางกลุ่มอนุรักษ์ได้แจ้งไปยังกรมประมงจังหวัดตราด เพื่อตรวจสอบว่า ปลาวาฬเสียชีวิตด้วยเหตุใด อีกทั้งปลาชนิดนี้เป็นปลาอนุรักษ์ ในขณะนั้น ประมงจังหวัดไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์และเครื่องมือ จึงได้ประสานไปยังประมงทะเลภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี และมหาวิทยาลัยบูรพา ขอความช่วยเหลือให้คำแนะนำในการเก็บรักษาซากดังกล่าว ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2544 เวลา 06.00 น. กลุ่มอนุรักษ์ป่าชายเลนบ้านเปร็ดใน และชาวบ้านจำนวน 10 คน เดินทางไปสถานที่ที่พบซากปลาวาฬ เพื่อชักลากมาที่หมู่บ้าน แต่เนื่องจากเนื้อปลาวาฬเปื่อยและยุ่ย ไม่สามารถชักลากมาได้ จึงได้ตัดคอปลาวาฬและระดมชาวบ้านกว่า 20 คน มาร่วมชำแหละโดยใช้เวลานานกว่าชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ จากนั้น ได้นำโครงกระดูกไปเก็บรักษาไว้ในอวน เพื่อให้เนื้อปลาที่หุ้มกระดูกเปื่อยจนหมด ต่อมานำโครงกระดูกปลาวาฬมาเก็บรักษาไว้เพื่อสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับหมู่บ้านเปร็ดใน เพื่อส่งเสริมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของหมู่บ้าน เพื่อเป็นอนุสรณ์เก็บไว้ให้ลูกหลาน และนักท่องเที่ยวได้ศึกษาต่อไป