ป้อม (ปืน) ไพรีพินาศ ตั้งอยู่บนเขาแหลมสิงห์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๗ โดยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าให้จมื่นราชามาตย์ (ขำ บุนนาค) เป็นแม่กองก่อสร้างป้อมปืนบนเขาบริเวณปากน้ำจันทบุรี ๒ ป้อม คือ ป้อมภัยพินาศ และป้อมพิฆาฏปัจจามิตร เพื่อเตรียมพร้อมรับศึกญวนทางทะเล ต่อมารัชกาลที่ ๔ เมื่อครั้งทรงผนวชได้เสด็จมายังเมืองจันทบุรี ไม่เห็นชื่อป้อม จึงพระราชทานนามว่า "ป้อมพิฆาฏข้าศึก" และ "ป้อมไพรีพินาศ"ในปี พ.ศ. ๒๔๑๙ รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสเมืองจันทบุรี เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๐ ได้พระราชทนชื่อว่า ป้อมไพรีพินาศ พบว่า บนยอดเขามีเจดีย์ซึ่งพระพิพิธเมืองตราดสร้างไว้ มีลักษณะเป็นทรงระฆัง ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณสูง ภายในเป็นอุโมงค์เก็บกระสุนดินปืนปัจจุบัน ชาวบ้านเรียกเจดีย์บนยอดเขานี้ว่า "เจดีย์อิสรภาพ" สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๙ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงการถอนกำลังของกองทหารฝรั่งเศสที่แหลมสิงห์
ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘ สิ่งสำคัญ ประกอบด้วย ๑) คลังกระสุนดินดำ ก่อด้วยปุน ด้านหลังป้อมก่อด้วยอิฐถือปูน ด้านกว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร ๘๐ เซนติเมตร ๒) มีพระเจดีย์ ก่อด้วยอิฐถือปูนบนป้อมองค์หนึ่ง
ในทุกวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ชาวจันทบุรี และชาวแหลมสิงห์ จะจัดให้มีการทำบุญตักบาตร และการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม โดยใช้ชื่องานว่า ป้อมไพรีพินาศ รำลึกพระบารมี ฉลองเมืองจันท์” เพื่อน้อมรำลึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัชกาลที่ ๓ รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณในการแก้ไขวิกฤต ร.ศ.๑๑๒ ยุคตะวันตกล่าอาณานิคม ทำให้จังหวัดจันทบุรี และ ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของไทย