ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 16° 26' 17.9999"
16.4383333
ลองจิจูด (แวง) : E 102° 50' 20"
102.8388889
เลขที่ : 105473
อนุสาวรีย์ท้าวเพียเมืองแพน
เสนอโดย prasan54 วันที่ 30 กรกฎาคม 2554
อนุมัติโดย วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555
จังหวัด : ขอนแก่น
0 1491
รายละเอียด

อนุสาวรีย์ท้าวเพียเมืองแพน เป็นอนุสาวรีย์ที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2545 เพื่อระลึกถึงผู้สร้างเมืองขอนแก่น ตั้งอยู่ที่บริเวณสนาม เจ ซี (เดิม) ริมบึงแก่นนคร ฝั่งตรงข้างด้านทิศตะวันออกสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ขอนแก่น(เดิม) ในช่วงเทศกาลประเพณีสงกรานต์ ชาวขอนแก่นได้ประกอบพิธีบวงสรวงอนุสาวรีย์ "ท้าวเพียเมืองแพน" เป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รวมทั้งปกป้องคุ้มประชาชนชาวเมืองขอนแก่นให้มีความสุขความเจริญ

ประวัติ/ความเป็นมา

ท้าวเพียเมืองแพน หรือ พระนครศรีบริรักษ์ เป็นขุนนางเชื้อพระวงศ์กษัตริย์เวียงจันทร์ มีธิดาชื่อนางคำแว่นเป็นสนมเอกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ในปี พ.ศ. 2325 เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาล ที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินธุ์ นางคำแว่น ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นเจ้าจอม ขณะเดียวกัน “เพียงเมืองแพน ได้อพยพไพร่พลจากเมืองทุรคม แขวงเวียงจันทน์ข้ามแม่น้ำโขงมาอาศัยอยู่ที่ ชีโล่น แขวงเมืองสุวรรณภูมิ (ปัจจุบันเป็นอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด) ปี พ.ศ. 2332 เจ้าจอมคำแว่น ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาให้ “เพียเมืองแพน” แยกตัวออกจากเมืองสุวรรณภูมิ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกบ้านบึงบอน(โนนทอง) ขึ้นเป็นเมืองขอนแก่น ให้ “เพียเมืองแพน” เป็นเจ้าเมืองขอนแก่น ขึ้นกับเมืองนครราชสีมา

เมื่อปี พ.ศ.2340 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ “เพียเมืองแพน” เจ้าเมืองขอนแก่นเป็นที่ “พระนครศรีบริรักษ์” ยกเมืองขอนแก่น ขึ้นเป็นเมืองสำคัญปลายราชอาณาเขต ขึ้นตรงต่อกรุงเทพฯ โดยมีใบตราตั้งเป็นเมืองอย่างเป็นทางการ

การตั้งชื่อเมือง แต่เดิมท้องถิ่น บ้านขาม ( ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ในปัจจุบัน) มีเนินดินอยู่ตรงกลางทุ่ง มีน้ำล้อมรอบในหน้าน้ำ และมีต้นมะขามต้นหนึ่งตายไปนานแล้ว เหลือแต่ตอที่เป็นแก่น เมื่อมีการสร้าง “พระธาตุพนม” พระยาหลังเขียวและพระอรหันต์ทั้ง 9 พร้อมด้วยข้าราชบริพารจะนำพระอังคารของพระพุทธเจ้าไปบรรจุที่พระธาตุพนม แต่การเดินทางมาค่ำมืดที่ตรงดอนที่มีน้ำล้อมรอบ จึงหยุดและวางสัมภาระตลอดจนพระอังคารไว้บนตอมะขาม ขณะพักผ่อนหลับนอน พอรุ่งขึ้นจึงเดินทางต่อไป เมื่อไปถึงพระธาตุพนมปรากฏว่าได้สร้างเสร็จแล้ว จะเอาอะไรเข้าบรรจุอีกไม่ได้ จึงพากันนมัสการพระธาตุพนมแล้วเดินทางกลับมาตามทางเดิม เมื่อมาถึงเนินดินที่เคยพักผ่อน ต้นมะขามที่ตายไปเหลือแต่แก่นกลับผลิใบเขียวชอุ่ม เป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก พระอรหันต์ทั้ง 9 พร้อมด้วยพระยาหลังเขียว จึงตกลงสร้างเจดีย์คร่อมต้นมะขามไว้ แล้วบรรจุพระอังคารของพระพุทธเจ้าลงไว้ ชาวบ้านเรียกเจดีย์องค์นี้ว่า "พระธาตุขามแก่น" เมื่อ “เพียเมืองแพน” อพยพมาจากบ้านชีหล่น มาตั้งอยู่ที่บ้านบึงบอน จึงได้ถือเอาปูชนียสถานแห่งนี้ เป็นชื่อเมืองขอนแก่น เพราะท่อนไม้แห้ง ๆ เหลือแต่แก่นนั้น ชาวพื้นเมืองจะเรียกว่า "ขอน" ท้าวเพียเมืองแพน ผู้เป็นปฐมเจ้าเมืองจึงได้ตั้งชื่อเมืองว่า "ขอนแก่น"

ผลงานที่ปรากฏสืบมา เมื่อสร้างเมืองเสร็จแล้ว “เพียเมืองแพน” ได้สร้างวัดขึ้น 3 วัด คือ วัดใต้ (ปัจจุบัน คือวัดธาตุพระอารามหลวง) วัดกลาง(ปัจจุบัน คือ วัดกลางเมืองเก่า) และวัดเหนือ (ปัจจุบัน คือ วัดหนองแวงพระอารามหลวง)

สถานที่ตั้ง
อนุสาวรีย์พระนครศรีบริรักษ์ หรือท้าวเพียเมืองแพน
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน รอบบึงแก่นนคร
จังหวัด ขอนแก่น
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
เทศบาลนครขอนแก่น
บุคคลอ้างอิง ประสาน บุตรจันทร์
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอเมืองขอนแก่น
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน ประชาสโมสร
อำเภอ เมืองขอนแก่น จังหวัด ขอนแก่น
โทรศัพท์ ๐๘-๔๔๒๘-๔๙๐๑
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่