ชื่อท้องถิ่น:หงอนไก่
ชื่อสามัญ:Cockscomb
ชื่อวิทยาศาสตร์:Celosia argentea L. var. cristata (L.) Kuntze
ชื่อวงศ์:AMARANTHACEAE.
ลักษณะวิสัย/ประเภท:ไม้ล้มลุกลักษณะพืช:
เป็น พืชล้มลุกเนื้อ อ่อนขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ ๓๐-๖๐ เซนติเมตร เป็นไม้เนื้ออ่อนไม่มีแก่น ลำต้นมีเปลือกเรียบ สีของลำต้นอาจเป็นสีเขียวอ่อน เขียวแก่ หรือแดง ขึ้นอยู่กับสีดอก ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว ดอกตามขั้วต้น ใบสีเขียวทางยาวรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ ยาว ๘-๑๐ เซนติเมตร ดอกเป็นชนิดสมบูรณ์เพศขนาดเล็กรวมกันแน่นบนก้านดอกที่อยู่ตรงส่วนยอดของลำ ต้น รวมทั้งดอกเป็นรูปร่างคล้ายหงอนไก่ สีของดอกหงอนไก่เกิดจากกลีบดอกขนาดเล็กมากมาย ที่คุ้นเคยกันดี ก็คือ สีแดงเข้ม คล้ายสีหงอนไก่จริงๆ แต่ในปัจจุบันมีการผสมพันธุ์จนได้หงอนไก่ที่มีสีต่างๆ เพิ่มขึ้น เช่น สีแสด สีชมพู สีเหลือง สีขาว และหลายสีในดอกเดียวกันก็มี เมล็ดหงอนไก่มีขนาดเล็กมาก เช่นเดียวกับเมล็ดบานไม่รู้โรยหรือ ผักโขม เมล็ดมีผิวสีดำเป็นมัน สามารถ เก็บได้นานหลายสิบปี นานกว่าเมล็ดพืชส่วนใหญ่
ปริมาณที่พบ:มากการขยายพันธุ์:ใช้เมล็ดอธิบายวิธีการเพาะ/ขยายพันธุ์:ขยายพันธ์โดยการเพาะเมล็ด หงอนไก่ เป็นไม้กลางแจ้งต้องการแสงแดดจัด ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี
ประโยชน์ของหงอนไก่
ในหนังสือประมวลสรรพคุณยาไทย กล่าวถึงสรรพคุณด้านยาของหงอนไก่เอาไว้ว่า ราก : แก้ไข้เพื่อลม(ใช้ในฤดูฝน มีอาการท้องอืดเฟ้อ) และไข้พิษ แก้โลหิต และลมอัมพฤกษ์ บำรุงธาตุ แก้หืด แก้เสมหะ มีรสเผ็ดร้อน ประโยชน์ด้านหลักของหงอนไก่คือต้นใช้เป็นไม้ดอกไม้ประดับ เพราะความงดงามโดดเด่นของรูปทรงและสีของดอก สามารถปลูกเป็นไม้กระถาง ปลูกเป็นแปลง หรือปลูกตามขอบแปลง หรือริมทางเดิน เพราะปลูกง่าย แข็งแรง ทนทาน ออกดอกได้ตลอดทั้งปี ดอกบานแล้วมีอายุยาวนานคล้ายบานไม่รู้โรย เพราะอยู่ในวงศ์เดียวกัน ตัดเป็นดอกไม้ตากแห้งได้ดี เก็บได้นานและไม่เปลี่ยนสี
ส่วนที่ใช้
ลำต้น ก้านและใบ ดอก เมล็ด
สรรพคุณ
ลำต้นใช้ลำต้นสด นำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้โรคท้องร่วง อาเจียนเป็นเลือด ริดสีดวงทวารมีเลือดออก กระอักเลือดตกเลือด หรือใช้เป็นยาพอกแก้ตะขาบกัด โดยใช้ต้นที่อ่อนตำแล้วพอก
ก้านและใบใช้ก้านและใบสดหรือแห้ง นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาระบาย แก้รดสีดวงทวารที่มีเลือดออก อาเจียนเป็นเลือด กระอักเลือด ตกเลือดและเป็นโรคบิด หรือใช้ตำพอกบาดแผลที่มีเลือด ผิวหนังเป็นผดผื่นคัน
ดอกใช้ดอกสดหรือแห้ง นำมาต้มเอาน้ำกินเป็นยาแก้บิด ถ่ายเป็นมูกเลือด ไอ หรืออาเจียนเป็นเลือด เลือดไหลไม่หยุด ประจำเดือนมามากผิดปกติ เลือดกำเดาออก ตกเลือด ตกขาว ปวดหัว เป็นผดผื่นคัน เยื่อตาอักเสบ และเป็นโรคตาแดง
เมล็ดใช้เมล็ดแห้ง นำมาต้มหรือใช้ทำเป็นยาเม็ดกิน เป็นยาแก้ความดันโลหิตสูง ตาฟางในเวลากลางคืน แก้อุจจาระเป็นเลือด บิด ถ่ายเป็นเลือด เลือดกำเดาออก ห้ามเลือดหรือผิวหนังเป็นผดผื่นคันร้อนแดงเป็นต้น