หลวงปู่คำดี ปภาโส: ท่านเป็นเกจิอาจารย์กรรมฐานรูปหนึ่ง ซึ่งท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และอาจารย์สิงห์ ขนฺตยาคโม "หลวงปู่คำดี ปภาโส" มารณภาพ เมื่อปี พ.ศ.2527 ที่วัดถ้ำผาปู่ ตำบลนาค้อ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย
ชาติกำเนิด: หลวงปู่คำดี ปภาโส เกิดวันพฤหัสบดี วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2445 ตรงกับแรม 14 ค่ำ ปีขาล ที่บ้านหนองคู ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โยมพ่อ-แม่ ชื่อ นายพร-นางหมอก นินเขียว หลวงปู่คำดี เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน
1. นายบุญตา นินเขียว ถึงแก่กรรม
2.หลวงปู่คำดี ปภาโส.มารณภาพ
3. นายอ่อน นินเขียว ถึงแก่กรรม
4. นางซา กมล ถึงแก่กรรม
5. นางบาง พันธุ์เมือง ถึงแก่กรรม
6. นางหลวง บำรุง ถึงแก่กรรม
การศึกษา: หลวงปู่คำดี สมัยเด็กท่านไม่ได้เรียนหนังสือเพราะไม่มีโรงเรียน ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ท่านเป็นเด็กที่อ่อนน้อมถ่อมตนและมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ท่านอยากบวชเป็นสามเณรแต่โยมพ่อ-โยมแม่ไม่อนุญาตต้องช่วยทำนาจนกระทั้งอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์ ท่านจึงได้อปสมบทที่วัดหนองแวง บ้านเมืองเก่า ตำบลพระลับ(ในเมือง) อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น พระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อบวชเสร็จไปจำพรรษาที่วัดป่าหนองกุง บ้านหนองคู ตำบลบ้านหว้า กับพระอาจารย์ 4 พรรษา หลวงปู่คิดอยากจะออกไปธุดงค์กรรมฐานปฏิบัติภาวนาให้รู้แจ้งเห็นจริงให้ได้ จึงได้ลาญาติโยมออกธุดงค์กรรมฐาน
เมื่อปี พ.ศ.2471: หลวงปู่คำดีญัตติเป็นพระธรรมยุตที่วัดศรีจันทร์ทราวาส ตำบลพระลับ อำเภอเมืองขอนแก่น มีพระครูพิศาลอรัญเขต เป็นพระอุปัชฌาย์ และไปจำพรรษาที่วัดบ้านยาง ตำบลโคกสี "เมื่อปี พ.ศ.2472" มีพระอาจารย์กรรมฐาน 2 รูป มาจากวัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา พระอาจารย์ปลัดคำพวยฯ ได้พาหลวงปู่ไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ กับพระอาจารย์สิงห์และพระอาจารย์มหาปิ่น ที่ป่าช้าบ้านเหล่างา (ปัจจุบัน “วัดป่าวิเวกธรรม”) และได้ไปจำพรรษาที่วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา "เมื่อปี พ.ศ.2473"หลวงปู่คำดี กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าหนองกุง บ้านหนองคู ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมืองขอนแก่น "ปี พ.ศ.2476"ได้ไปวิเวกกับพระอาจารย์จันทร์ เขมปฺปตฺโต ที่อำเภอปักธงชัย และเดินทางไปยัง “เขาตะกุดรัง” จังหวัดนครราชสีมา "ปี พ.ศ.2479"หลวงปู่ได้ลาพระอาจารย์เดินทางกลับขอนแก่น "ท่านได้ธุดงค์กรรมฐาน"ไปในที่ต่างๆ ที่เงียบสงบวิเวกทำความเพียรตามป่าดง ภูเขา และถ้ำ
เมื่อปี พ.ศ.2498: หลวงปู่ ได้เดินทางไปถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย ซึ่งเป็นสถานที่น่ากลัว มีภูตผีปีศาจรุนแรงพอสมควร พระธุดงค์หลายรูปอยู่ไม่ได้ เพราะพวกอมนุษย์รบกวนแสดงตนให้เห็นเป็นรูปต่างๆ หลวงปู่จำพรรษาอยู่บนถ้ำ 7 พรรษา ในปี พ.ศ.2505 ญาติโยมมีจิตศรัทธาสร้างกุฏิให้หนึ่งหลัง ชื่อว่ากุฏิสามัคคีธรรม ประกอบกับท่านเริ่มชราการขึ้นลงลำบาก ท่านได้จำพรรษาที่กุฏินี้ 4 พรรษา ปี พ.ศ.2509 ท่านไปจำพรรษาที่วัดป่าหนองแซง อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี
เมื่อปี พ.ศ.2510: ญาติโยมชาวเมืองเลยได้ไปนิมนต์หลวงปู่กลับมาจำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่ ปี พ.ศ.2518 หลวงปู่เริ่มอาพาธด้วยโรคต่อมลูกหมากโตปัสสาวะกะปริตกะปรอย ญาติโยมจึงนิมนต์ท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลสงฆ์ กรุงเทพมหานคร คณะแพทย์ได้ทำการรักษาโดยผ่าตัดเมื่ออาการป่วยหายเป็นปกติหลวงปู่จึงได้เดินทางกลับวัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย "เมื่อปี พ.ศ.2524"หลวงปู่ ได้เดินทางไปที่วัดป่าอรัญญวาสี บ้านเหล่านาดี ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมืองขอนแก่น เป็นประธานสร้างกุฏิที่ญาติโยมมีศรัทธาสร้างถวายเป็นอนุสรณ์ ต้นปี พ.ศ.2526 หลวงปู่ มีอาการอาพาธ คุณหมอจากโรงพยาบาลแพทย์ปัญญาได้นิมนต์หลวงปู่ไปรับการรักษาพยาบาลที่กรุงเทพมหานคร เมื่ออาการดีขึ้นหลวงปู่ก็เดินทางกลับวัดถ้ำผาปู่ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2527 อาการไม่ดีขึ้นหมอปัญญาส่งรถพยาบาลมารับท่านไปรักษาที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญาอีกครั้ง
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2527:เวลา 13.13 นาฬิกา หลวงปู่ มรณภาพด้วยอาการสงบ ที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา กรุงเทพมหานคร ลูกศิษย์และญาติโยมได้นำศพหลวงปู่ ตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่ “วิหารญาณทัสสี” วัดถ้ำผาปู่ สิริอายุ 83 ปี 57 พรรษา ตลอดระยะเวลา 57 พรรษา หลวงปู่ได้อบรมสั่งสอนให้ญาติโยมทำสมาธิวิปัสสนา ยึดมั่นถือมั่นในหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2528 ลูกศิษย์พร้อมด้วยญาติโยมได้ประกอบพิธีจัดงานพระราชทานเพลิงศพ พระครูญาณทัสสี (หลวงปู่คำดี ปภาโส) ณ วัดถ้ำผาปู่ จังหวัดเลย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ: ทรงพระกรุณาโปรดรับเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศตลอด 7 วัน 50 วัน และ 100 วัน ตามลำดับ