ประวัติวัดศาลาแดง
วัดศาลาแดง เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกายเหมือนวัดส่วนมากในประเทศไทยมีเนื้อที่ 27 ไร่ 1 งาน 46 ตารางวาทิศเหนือติดกับที่ดินของชาวบ้าน ทิศใต้เดิมเป็นเส้นทางเดินของช้างที่เดินทางผ่านไปมาจากพะเนียดที่บ้านลุมพลี ต่อมาเมื่อไม่มีช้างก็กลายเป็นทางสาธารณะ และ ปัจจุบัน ได้สร้างเป็นถนนเชื่อมต่อกับสะพานข้ามแม่น้ำลพบุรีทำให้สะดวกในการสัญจรมากทิศตะวันออกของวัดเป็นลำคลองชลประทาน ถัดออกไปเป็นทุ่งนาส่วนด้านทิศตะวันตกติดกับแม่น้ำลพบุรี
เล่าสืบกันมาว่า วัดศาลาแดง นี้ เดิมชื่อ "วัดหางเสือ" สร้างเมื่อปี พ.ศ.2305 โดยคหบดีชาวจีนที่เป็นพ่อค้าล่องซุงคนหนึ่ง ชื่อ ก๋งชวดทอง แหวนทอง โดยสร้างห่างจากแม่น้ำออกไปใกล้กับคลองชลประทานปัจจุบัน ซึ่งเดิมเป็นทุ่งนา เมื่อคราวเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2310)วัดหางเสือได้กลายเป็นวัดร้างอยู่ระยะหนึ่งต่อมาได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ โดยสร้างอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เลื่อนมาทางตะวันตกติดกับแม่น้ำลพบุรี ชาวบ้านเรียกกันว่า "วัดหลังคาแดง" ต่อมาสมัยพระอธิการเฉื่อยสมเด็จพระวันรัต (เฮง)วัดมหาธาตุยุวราษฏร์รังสฤษดิ์ได้เปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็น "วัดศาลาแดง" จึงเรียกกันว่า วัดศาลาแดงมาจนถึงปัจจุบัน
วัดศาลาแดง ได้วิสุงคามสีมาในครั้งหลัง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2495
ชาวพุทธจากหมู่ที่ 5 และ หมู่ที่ 6 ของตำบลบางปะหันเป็นส่วนมาก ที่มาทำบุญที่วัดศาลาแดง คอยดูแลอุปถัมภ์ บำรุง พระภิกษุสามเณร รวมทั้งดูแลทำนุบำรุงวัดมาโดยสม่ำเสมอ ทำให้วัดศาลาแดงมีอาคารเสนาสนะที่มั่นคง แข็งแรงถาวร สวยงาม เช่นเดียวกับวัดทั่ว ๆ ไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันที่หลายวัดได้สร้างอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน แต่อาคารเสนาสนะหลายอย่างของวัดศาลาแดงยังคงเป็นไม้ที่คงรักษาศิลปะการก่อสร้างอันงดงามแบบเดิมอยู่ เช่น หอสวดมนต์ กุฏิพระสงฆ์ เป็นต้น
ปูชนียวัตถุสำคัญของวัดศาลาแดง คือ หลวงพ่อทอง เป็นพระพุธรูปพระประธานในพระอุโบสถ ชาวบ้านศาลาแดงให้ความเคารพ เชื่อถือศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์กันมากการแก้บนต่อหลวงพ่อทอง ที่นิยมกันมาก คือ การปิดทอง
สิ่งที่น่าภาคภูมิใจของวัดศาลาแดงอีกอย่างหนึ่งคือ การที่ได้รักษาต้นไม้ใหญ่ เก่าแก่ อายุนับร้อยปีไว้จำนวนมาก เช่น ต้นตะเคียน ต้นยาง เป็นต้น
วัดศาลาแดง เป็นวัดหนึ่งที่อยู่ในทำเนียบของวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ตามความนิยมของผู้ที่ชื่นชอบพระเครื่องโดยทางวัดศาลาแดงได้เคยสร้างเหรียญ "หลวงพ่อรวย" หรือพระอธิการสำรวย อธิปุญโญอดีตเจ้าอาวาสของวัดศาลาแดงขึ้น 2 รุ่นคือ
รุ่นที่ 1 เหรียญโลหะรูปเสมา พ.ศ. 2534
รุ่นที่ 2 เนื้อผง พ.ศ. 2536
วัดศาลาแดง นอกจากจะเป็นแหล่งรววมใจ รวมศรัทธา เป็นที่บำเพ็ญกุศลประกอบศาสนกิจตามประเพณีต่าง ๆ แล้วยังมีศิลปะวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าหลายอย่าง ควรที่เยาวชนจะได้มาสนใจศึกษา และสืบทอดไว้ให้คงอยู่ตลอดไป