ลักษณะ: ต้นเหมือนต้นพุทธรักษาเนื้อใบและสันฐานของใบเหมือนใบกล้วย หน้าใบรีสีเขียวหมอกกลางใบเป็นสีนวลเขียวตลอดใบ มีพรายปรอทใต้ใบสีแดงม่วง เมื่อใบยังอ่อนสีจะค่อนข้างแดงแต่เมื่อแก่ใบจะจางลง ต้นก็เหมือนกับต้นอ่อนสีแดงจัด พอต้นแก่สีจะจางลง ต้นว่านแสงอาทิตย์คล้ายต้นพุทธรักษา ดอกก็เหมือนกับดอกพุทธรักษาแต่เล็กกว่าใบเมื่อถูกแดดจะห่อตัวเล็กน้อย
ประโยชน์: กล่าวกันว่าเป็นว่านศักดิ์สิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์มากมายสุดจะพรรณนาถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ ถ้ากระทำพิธีการให้ถูกต้องตามตำราและมีศีล มีสมาธิอย่างแน่วแน่จึงจะเกิดผล ตามที่มีผู้กล่าวกันว่าผู้สำเร็จว่านนั้นแปลความว่าผู้ที่ตั้งพิธีกรรมปฏิบัติถูกพิธีการและมีจิตอันเป็นกุศลอย่างละเอียด เมื่อได้บริกรรมภาวะนาเสกเป่าพระคาถาตามลำดับพิธีแล้ว ได้กินว่านนี้เข้าไปก็จะมีอิทธิฤทธิ์ผิดสามัญชน เดินเหินไปในอากาศและอาจจะมีทิพย์จักษุมองเห็นทะลุไปหมดไม่ว่านรกหรือสวรรค์ชั้นฟ้า หากเอาว่านนี้ทาตาก็จะเห็นเช่นนั้น
แต่โดยทั่วไปแล้วเพียงแต่นำว่านแสงอาทิตย์นี้มาปลูกไว้ในบริเวณบ้านได้ก็นับว่าบุญของผู้นั้น เพราะถือกันว่าเป็นว่านมีค่าอนันต์หายากในครั้งดึกดำบรรพ์ แต่ปัจจุบันก็พอเสาะแสวงได้ บ้านไดมีไว้จะทำให้เจ้าของบ้านมีสง่าราศีเป็นที่เกรงขามของผู้อื่น มิได้ด้อยน้อยหน้าผู้ใดในสมาคมนั้นๆ อุปมาดั่งแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นประธานของสรรพสิ่งทั้งหลายในพิภพนี้
วิธีปลูก: หาดินที่สะอาดปราศจากมลทินมาเป็นเครื่องปลูก โดยเอาทรายท้องน้ำมาเป็นส่วนผสม(หากหาไม่ได้ท่านให้เอาทรายธรรมดามาคั่ว ภาษาโบราณเรียกว่าชำระด้วยไฟธาตุ) กระถางซึ่งจะนำมาเป็นภาชนะใส่เครื่องปลูกต้องเป็นกระถางที่ใหม่เอี่ยมและมีความสะอาด(ถ้าหาโอ่งมังกรขนาดเล็กหรือเครื่องลายครามจะช่วยเพิ่มความสง่างามอีกมาก) สถานที่ตั้งต้องอยู่สูงเด่นเป็นประธานว่านทั้งปวง น้ำที่จะรดต้องเสกทุกครั้งจะใช้ "นะโมพุทธายะ" หรือ"อิติปิโสภควา ถึง ภควาติ" ก็ได้ แต่ต้องว่าให้ครบ ๗ คาบ ทำดั่งนี้เรื่อยไป มิช้าจะเห็นผลแปลกๆ เกิดประโยชน์ในทางมีตบะเดชะขึ้นมาทันใจ คนที่เคยถูกเหยีดหยามจะตามมางอนง้อขอขมา อำนาจในกายตนจะเพิ่มขึ้น พยายามนั่งชมว่านวันละครั้งสองครั้งในยามเช้า(ถ้ามีเวลาพอ) เพื่อให้ได้พลังงานประหลาดจากต้นแลหัวว่าน แล้วท่านจะพบกับความมหัศจรรย์อย่างไม่คาดคิด เชิญทดลองดูให้รู้ด้วยตนเอง