ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 19° 34' 48.761"
19.5802114
ลองจิจูด (แวง) : E 99° 51' 30.776"
99.8585489
เลขที่ : 165603
นางทา เชิดชน ภูมิปัญญาเครื่องสักการะ
เสนอโดย wi วันที่ 26 ตุลาคม 2555
อนุมัติโดย เชียงราย วันที่ 27 ตุลาคม 2555
จังหวัด : เชียงราย
0 631
รายละเอียด

นางทา เชิดชนเป็นภูมิปัญญาด้านเครื่องสักการะล้านนา

1.ประวัติภูมิปัญญาช่างฝีมือพื้นบ้าน (ผู้ให้การสัมภาษณ์)

ชื่อนางทานามสกุลเชิดชนประธานกลุ่ม

วันเดือนปีเกิด1มกราคม2491อายุ65ปี

ตำแหน่ง-

การศึกษาประถมศึกษาปีที่4อาชีพเกษตรกร(ทำนา)

ที่อยู่41หมู่ที่8ตำบลป่าแดดอำเภอป่าแดดจังหวัดเชียงราย

โทรศัพท์08-7304-7651โทรสาร-

2.แหล่งที่ผลิต/กลุ่มผู้ร่วมผลิต/พิกัดสถานที่

แหล่งที่ผลิตอยู่ที่บ้านเลขที่41หมู่ที่8ตำบลป่าแดดอำเภอป่าแดดจังหวัดเชียงราย

กลุ่มผู้ร่วมผลิตนางสุทัศน์แซ่อึ้งและผู้สูงอายุบ้านหมู่ที่8ตำบลป่าแดด

วันเดือนปีเกิด24ธันวาคม 2509อายุ45ปี

ตำแหน่ง-

การศึกษาประถมศึกษาปีที่4อาชีพเกษตรกร (ทำนา)

ที่อยู่107หมู่ที่8ตำบลป่าแดด อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย

โทรศัพท์08-7304-7651โทรสาร-

พิกัดสถานที่

Zone4748พิกัดX0604409พิกัดY2155751

3.ขั้นตอนการผลิต/วิธีทำ

1.1.การทำขันหมากเบ็ง

ขันหมากเบ็งคือ กรวย หรือ ซวย ใบตองที่ประกอบขึ้นเป็นสี่เหลี่ยมสันฐานกลมและประดับด้วยดอกไม้ดอกไม้ใช้มักจะเป็นดอกไม้ขาว เช่นดอกบานไม่รู้โรย ดอกรัก แต่ห้ามใช้ดอกสีขาวอย่างดอกจำปา และที่สำคัญไม่ควรใช้ดอกไม้แดง เพราะถ้าหากใช้ดอกไม้แดงจะเป็นเครื่องบูชาผีไท
ขันหมากเบ็งที่นิยมทำและใช้ในการประกอบพิธีกรรมทั้งทางพิธีพุทธและพิธีพราหมณ์จะมีอยู่2ชนิดคือ
แบบ5ชั้นคือ ซ้อนทับกรวยใบตองและประดับดองไม้ขึ้นไป5ชั้น อันมีความหมายถึงขันธ์ทั้ง5หรือ ที่ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าเบญจขันธ์ ได้แก่
1.รูป คือ ส่วนประกอบฝ่ายรูปธรรมทั้งหมด อันได้แก่ร่างกายและพฤติกรรม สสารและพลังงานด้านวัตถุ

2.เวทนา คือ ความรู้สึก สุข ทุกข์ ซึ่งเกิดจากผัสสะทางประสาททั้ง5และใจ
3.สัญญา คือ ความกำหนดได้ หมายรู้ อันเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์
4.สังขาร คือ คุณสมบัติต่าง ๆ ของจิต

5.วิญญาณ คือ การรับรู้ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้สัมผัส ได้กลิ่นได้รับรสซึ่งทั้งหมดก็เป็นการรวบรวมขันธ์ทั้ง5และสำรวมเพื่อน้อมบูชาพระรัตนตรัย
แบบ8ชั้นคือ ซ้อนทับกรวยใบตองและประดับดอกไม้ขึ้นไป8ชั้นอันมีความหมายที่แสดงถึง
ธาตุทั้ง4ที่รวมกันทั้ง8ชั้นเป็นร่างกายทั้ง32ประการซึ่งก็หมายถึงการนอบน้อมกายทั้งหมดเพื่อสักการะบูชา

วิธีทำ

เช็ดใบตองให้สะอาดและฉีกใบตองดังนี้

·ทำกรวยข้าว ฉีกกว้าง5 ½นิ้ว จำนวน1แผ่น

·เกล็ดประกอบกรวย ฉีกกว้าง2นิ้ว จำนวน20แผ่น (สำหรับกรวย5ชั้น)

·พันกลีบปิดเกล็ดกรวย ฉีกกว้าง8นิ้วจำนวน1แผ่น

1.การม้วนกรวยนำใบตอง2แผ่นที่ฉีกไว้มาประกบกันให้ทางปลายอ่อนทั้ง2แผ่นสลับกัน แล้วม้วนให้เป็นกรวย ให้ปลายอ่อนอยู่ข้างนอก ตัดปากกรวยให้เรียบใช้ไม้กลัด ความสูงจากยอดประมาณ5 ½นิ้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง2 ¾นิ้ว– 3นิ้ว

.การพับกลีบมือซ้ายถือข้างอ่อนจับริมใบตองตอนกลาง มือขวาพับเฉแบ่งเป็นสี่ส่วนแล้วปิดริมซ้ายตลบลงมาทับรอยพับตรงกลาง พับทั้งหมด20แผ่น

2

3.การพับกลีบประกอบตัวแม่มีทั้งหมด4แถวโดยมือซ้ายจับตัวแม่ มือขวาจับกลีบที่พับไว้ทาบกับตัวแม่ใช้ไม้กลัด ทับซ้อนกลีบเป็นชั้นๆจำนวน4แถวๆละ5ชั้นหรือ8ชั้น

4.การพับผ้านุ่ง หรือ การมอบพับผ้านุ่งโดยพับครึ่งใบตองพันรอบฐานปิดโคนกลีบสุดท้ายกว้าง4นิ้ว ใช้ไม้กลัดหรือลวดเย็บและตัดแต่งฐานให้เรียบร้อย ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ เช่น ดอกรัก ดอกพุด (นิยมใช้ดอกไม้สีขาว)หรือดอกดาวเรือง

2.วัสดุที่ใช้ในการผลิต

1.ใบตองกล้วยตานี

2.กาบกล้วย

3.ไม้ไผ่

4.ต้นกล้วย

3

5.ขี้ผึ้ง

6.ดอกไม้ประเภทต่างๆ

7.ใบพลู

8.ใบเล็บครุฑ

9.ใบพุดซ้อน ใบสน

10.หมากแห้ง

11สำลี/ดอกฝ้าย

2.การประดิษฐ์หมากสุ่มแบ่งได้เป็น2กลุ่ม สรุปได้ดังนี้ คือ
1.1.รูปแบบดั้งเดิม คือหมากสุ่มที่มีโครงสร้างลักษณะรูปทรงพุ่มแบบง่ายๆ โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น และใช้เวลาในการทำไม่นานหมากสุ่มรูปแบบดังกล่าวนี้มีโครงสร้างที่ทำมาจากการนำไม้ไผ่ผ่าซีกมาเหลาให้มีขนาดเล็กแล้วนำไปแช่น้ำก่อนเพื่อให้ไม้ไผ่สามารถ ดัดให้โค้งงอได้จากนั้นจึงนำมาขัดหรือสานและมัดต่อกันจนได้ลักษณะโครงสร้างตามต้องการ ส่วนฐานรองรับโครงสร้างนี้จะทำจากต้นกล้วย ต้นคาที่ตากแห้งสนิทหรือฟางข้าว ซึ่งหากเป็นเขตรอบนอกเมืองจะนิยมใช้วัตถุดิบสองประเภทหลังมากกว่าเพราะหาได้ง่าย และสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ เมื่อทำโครงสร้างเสร็จแล้วก็จะนำหมากแห้งที่ร้อยเป็นสายด้วยเชือกปอมาเรียงซ้อนกันบนโครงสร้างให้สวยงามจากนั้นจึงตกแต่งด้วยข้าวตอกดอกไม้และบุหรี่ยาสูบของชาวล้านนา
1.2.รูปแบบประยุกต์ เป็นรูปแบบที่พัฒนามาจากรูปแบบดั้งเดิมโดยจะทำให้มีลักษณะรูปทรงพุ่มคล้ายดอกบัวตูม โครงสร้างของหมากสุ่มรูปแบบนี้มาจากการดัดเชื่อมเหล็กจนได้ลักษณะตามต้องการ ความแตกต่างของหมากสุ่มรูปแบบนี้อยู่ที่ฐานรองรับซึ่งจะใช้ขันโตกหรือพานที่ทำจากไม้หรือโลหะ เพราะการใช้ขันโตกหรือพานเป็นฐานจะช่วยให้ขั้นตอนในการประกอบหมากสุ่มใช้เวลาน้อยลงเมื่อทำโครงสร้างเสร็จแล้วก็จะมีวิธีการและขั้นตอนการปฏิบัติเช่นเดียวกับการทำหมากสุ่มรูปแบบดั้งเดิมเพียงแต่หมากสุ่มรูปแบบประยุกต์นี้จะมีความสวยงาม แข็งแรง และทนทานต่อการนำไปใช้ในงานพิธีการต่างๆมากกว่าหมากสุ่มรูปแบบดั้งเดิม

3.การประดิษฐ์ต้นดอก
เป็นการนำใบเล็บครุฑมามัดเป็นช่อ วิธีการมัดจะใช้หนังยางผูกมัดติดกับไม้เสียบให้แน่น แล้วนำมาเสียบลงบนโครงสร้างต้นกล้วยที่เตรียมไว้ให้เป็นลักษณะทรงพุ่มคล้ายดอกบัวตูมหรือรูปวงรี โดยต้องเสียบให้แน่นๆจากนั้นใช้กรรไกรตัดพุ่มต้นดอกเพื่อให้เรียบเสมอกัน ขั้นตอนสุดท้ายคือการประดับตกแต่ง ซึ่งสมารถแบ่งได้เป็น2ส่วน ส่วนแรกเป็นการตกแต่งฐาน ส่วนที่สองเป็นการตกแต่งต้นดอกด้วยดอกไม้มงคล ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมตามฤดูกาล เช่น ดอกพุดซ้อน ดอกบัว รวมทั้ง เมี่ยง ใบพลูทาด้วยปูนแดง ที่จับจีบหรือม้วนอย่างสวยงาม ส่วนยอดบนสุดของต้นดอกจะประดับดัวยกรวยใบตอง มาลัยดอกไม้สด คล้ายหมากสุ่ม หมากเบ็ง

4.การประดิษฐ์ต้นเทียน
ต้นเทียนว่าเป็นการนำขี้ผึ้งบริสุทธิ์มาผึ่งแดดให้นิ่ม ปั้นคลึงให้มีขนาดความยาว3-5นิ้วมีไส้ฝ้ายอยู่ด้านในเป็นเทียนแท่งแบบพื้นเมือง นำมาผูกติดกับก้านไม้ไผ่ก้านละ2เล่ม ปักเรียงบนโครงสร้างให้เป็นระยะให้สวยงามโดยไม่กำหนดจำนวนขั้นตอนต่อมาคือการใช้ด้ายผูกมัดเทียน จำนวน2เล่มเข้าด้วยกันไว้ในตำแหน่งปลายไม้ การ

4

ประดิษฐ์เครื่องสักการะต้นเทียนนั้นจะใช้เทียนให้ครบตามจำนวน คือ54คู่ หรือเท่ากับเทียนจำนวน108เล่ม โดย

จำนวนเทียนทั้ง108เล่มนั้นมาจากหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา คือ56ตามคุณพระพุทธ38ตามคุณพระธรรมและ16ตามคุณพระสงฆ์ หลังจากผูกเทียนติดปลายไม้เรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปจะนำใบไม้ เช่นใบเล็บครุฑใบพุดซ้อน ใบสน มาปักรอบแกนกลางของโครงสร้างหลังจากนั้นจึงนำเทียนที่ผูกติดกับปลายไม้ไว้แล้วมาปักลงบนโครงสร้างที่เตรียมไว้ด้านการประดับตกแต่งก็จะคล้ายกับการตกแต่ง หมากสุ่ม หมากเบ็งและต้นดอก

5.การประดิษฐ์ต้นผึ้ง
เป็นการนำขี้ผึงบริสุทธิ์ มาผึ่งแดดพอให้อ่อนตัว แล้วปั้นทีละกลีบ เรียงซ้อนหรือเข้าดอกแบบดอกเอื้องผึ้ง ปักเรียงบนโครงไม้ใส่ใบสลับให้สวยงามรูปทรงขนาดเดียวกับต้นดอกบนยอดมีกระทงเจิมใส่ดอกไม้ข้างในทำให้ดูสวยงามขึ้นการประดิษฐ์ต้นผึ้ง เมื่อทำฐานเสร็จแล้วก็ถึงขั้นตอนการทำโครงสร้างต้นผึ้งซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการทำโครงสร้างของหมากเบ็ง คือ ใช้กาบกล้วยเป็นโครงสร้างทั้งหมดจากนั้นใช้ใบตองพันลงบนโครงสร้างกาบกล้วยทุกเส้น แล้วใช้กรรไกรตัดใบไม้มาประกอบให้เต็มโครงสร้าง ใบไม้ที่ใช้มี อาทิ ใบปริก ใบแก้ว ใบสน ใบพุดซ้อน ใบเล็บครุฑเป็นต้น จากนั้นก็จะทำดอกผึ้ง โดยนำขี้ผึ้งเป็นแผ่นไปผึ่งแดดจนอ่อนตัวลง แล้วใช้กรรไกรตัดให้มีขนาดตามขนาดของกลีบดอกไม้ที่ต้องการจะปั้น ซึ่งในอดีตจะนิยมปั้นขี้ผึ้งให้เป็นรูปดอกเอื้องผึ้ง ปัจจุบันนอกจากจะปั้นเป็นดอกเอื้องผึ้งแล้วยังทำเป็นดอกกุหลาบ ดอกแก้ว ดอกพุดซ้อน ดอกเข็ม เป็นต้นจำนวนดอกไม้ที่จะปั้นไม่มีการกำหนดแน่นอน เสร็จแล้วนำดอกผึ้งที่ได้มาปักลงบนโครงสร้างที่เตรียมไว้การประดับตกแต่งนอกจากจะประดับด้วยดอกไม้สดแล้ว สำหรับส่วนยอดก็ทำเช่นเดียวกับการตกแต่งหมากสุ่ม หมากเบ็ง

4.เครื่องมือที่ใช้ในการผลิต

1.กรรไกร

2.มีด

3.ชาม

4.ไม้สำหรับกลัด

5.พาน

5.ระยะเวลาที่ใช้ในการผลิต

แต่ละประเภทใช้เวลาในการประดิษฐ์12ชั่วโมง

6.รายได้/ค่าตอบแทน/ราคาที่จำหน่าย

ราคาที่จำหน่าย ประเภทละ300บาท หรือแล้วแต่ขนาดใหญ่เล็กและรูปแบบ

7.ประโยชน์/หน้าที่ใช้สอย

ใช้ในงาน/กิจกรรมที่จัดขึ้นในชุมชน/ในอำเภอ/และร่วมงานกิจกรรมต่างๆ ที่มีการแสดงถึงเคารพสักการะ

8.ลักษณะการเรียนรู้และการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษและจากการที่มีความชอบอยู่แล้ว

9.การยกย่องจากสถาบันหรือการยอมรับของช่างในกลุ่ม/ชุมชนเดียวกัน

ได้รับใบประกาศเกียรติคุณจากหน่วยงานต่างๆที่ร่วมงาน/กิจกรรมและเป็นผู้ถ่ายทอดให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้ สืบทอด

คำสำคัญ
เครื่องสักการะล้านนา ป่าแดด
หมวดหมู่
ปราชญ์ชาวบ้าน
สถานที่ตั้ง
บ้านศรีชุม
เลขที่ 41 หมู่ที่/หมู่บ้าน หมู่ที่ 8
ตำบล ป่าแดด อำเภอ ป่าแดด จังหวัด เชียงราย
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
วัฒนธรรมอำเภอป่าแดด
บุคคลอ้างอิง พัชรนันท์ แก้วจินดา อีเมล์ patcharanan3@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอป่าแดด อีเมล์ chiangrai@m-culture.go.th
เลขที่ 632 หมู่ที่/หมู่บ้าน 3 ถนน แม่ฟ้าหลวง
ตำบล ริมกก อำเภอ เมืองเชียงราย จังหวัด เชียงราย รหัสไปรษณีย์ 57100
โทรศัพท์ 0-5315-0169 โทรสาร 0-5315-0170
เว็บไซต์ http://province.m-culture.go.th/chiangrai
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่