คลองเจ้าพระยามหาโยธา
รายละเอียดข้อมูล
เจ้าพระยามหาโยธา หรือพระยาเจ่ง เชื้อสายรามัญเป็นมอญนอก และเป็นเชื่อสายของมอญเมืองปทุมธานี เป็นผู้ที่มีความสามารถในด้านการทหารและการเมืองสำคัญผู้หนึ่ง เคยรับราชการอยู่ในประเทศพม่า นายมอญผู้นี้ทนการกดขี่ข่มเหงของพวกพม่าไม่ไหว จึงได้พาพรรคพวกและครอบครัวมอญอพยพหนีเข้ามาในประเทศไทย เพื่อขอพึ่งบารมีสมเด็จพระจ้าตากสิน เมื่อปี พ.ศ. 2317 เป็นจำนวน 10,000 คน สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ทรงโปรดเกล้าให้ไปตั้งภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองสามโคกบ้าง เมืองนนทบุรีบ้าง พระยาเจ่งผู้นี้มีความสามารถ ได้สมัครเข้าช่วยเหลือราชการของไทย จนได้รับยศเป็นถึงเจ้าพระยามหาโยธา
ตามหนังสือเรื่อง ตั้งเจ้าพระยากรุงรัตนโกสินทร์ มีความตอนหนึ่งว่า “เจ้าพระยามหาโยธา นามเดิมว่า เจ่ง (แปลว่า ช้าง) เป็นมอญนอก เดิมทำราชการอยู่กับพม่า ได้เป็นเจ้าเมืองเชียงแสนอยู่คราวหนึ่ง แล้วย้ายไปเป็นเจ้าเมืองเตริน (อังกฤษ เรียก อัตรัน) อันเป็นเมืองช้างตอนใต้ ครั้นเมื่อสมัยกรุงธนบุรี พวกมอญถูกพม่ากดขี่เหลือทนเกิดเป็นกบฏขึ้น พระยาเจ่งเป็นหัวหน้าของกบฏคนหนึ่ง รวมกำลังยกไปตีเมืองร่างกุ้ง สู้พม่าไม่ได้ ก็พากันอพยพครอบครัวเข้ามาพึ่งไทย ในครั้งกรุงธนบุรี จะได้มีบรรดาศักดิ์อย่างไรไม่ทราบ ถึงรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงตั้งเป็นพระยามหาโยธา จางวางกองมอญ ต่อมารบพุ่งพม่ามีความชอบโดยโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนเป็นเจ้าพระยามหาโยธา ต้นกระกูล “คชเสนี” และเป็นบิดาของเจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรีย) ในรัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว”
เกียรติประวัติและความดีงามของพระยาเจ่ง ได้สืบทอดมาจนถึงบุตรชายของท่านคือ ทอเรีย คชเสนี รับราชการได้เป็นถึงเจ้าพระยามหาโยธาเช่นเดียวกับบิดา ทอเรียเป็นบุคคลที่มีความสามารถเป็นนักรบผู้หนึ่ง เช่นเดียวกับบิดา และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยอยู่มิได้ขาด เข้ารับราชการเป็นกำลังที่สำคัญของไทย ในสมัยเมื่ออังกฤษทำสงครามกับพม่า ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สงครามระหว่างอังกฤษกับพม่านั้น ทางไทยเราเกรงว่าเมื่ออังกฤษชนะ อาจยกกองทัพเข้ามาในประเทศไทย เพราะอังกฤษมีกำลังมาก และอาวุธเหนือกว่า เมื่ออังกฤษขอความช่วยเลือกมายังไทย ให้ช่วยรบพม่า ไทยจึงไม่อาจปฏิเสธได้ จำต้องช่วยเหลืออังกฤษทันที ในการช่วยเหลืออังกฤษครั้งนี้ จำเป็นต้องอาศัยผู้มีความสามารถหลายด้าน เช่น ในด้านฝีมือในการรบ การทูต และการใช้ภาษา พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าให้พระยามหาโยธา (ทอเรีย คชเสนี) เป็นหัวหน้ายกทัพออกไปช่วยเหลือ
เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรีย คชเสนี) เป็นที่รักใคร่ของพวกมอญในประเทสไทยและประเทศพม่ามาก เป็นผู้ที่มีคุณธรรมสูงส่ง มีความกตัญญูกตเวทีต่อผืนแผ่นดินไทย ให้ความร่มเย็นเป็นผลดีแก่ชาวมอญที่ฝังรกรากอยู่บนพื้นแผ่นดินไทย มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
หลวงบริณัย จรรยาราษฎร์ อุปนายกสมาคมไทยรามัญ ได้เขียนเทิดเกียรติเจ้าพระยามหาโยธาผู้นี้ไว้ในประวัติ “มอญเก่า-มอญใหม่” ในฐานะที่เป็นต้นกตะกูลของท่าน
เจ้าพระยามหาโยธา (เจ่ง คชเสนี) ได้เอาใจใส่ดูแลความทุกข์สุของมอญที่อพยพเข้ามาเป็นอย่างดี โดยส่งเสริมให้ทำการฝีมือ ทำเครื่องปั้นดินเผา ทำหม้อ โอ่ง อ่าง เผาอิฐ ฯลฯ และทำการค้าขายไม่ให้อยู่นิ่งเฉย ซึ่งเป็นการเอาเปรียบคนอื่น คนที่ไม่ชอบค้าขายก็แนะให้ทำสวน ทำนา มีอาชีพทุกคน ท่านได้ให้พวกมอญทำการขุดคลองเชื่อมระหว่างคลองบางหลวง ตัดผ่านคลองพระอุดมหนึ่ง ถึงคลองพระยาบันลือ ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ครอบครัวมอญแยกย้ายออกไปทำสวนทำนา ได้อาศัยน้ำในการเพาะปลูก และเลี้ยงสัตว์ให้มากขึ้น จนได้รับความสะดวกสบาย คลองส่งน้ำที่ท่านทำการขุดนี้มีชื่อว่า “คลองเจ้าพระยาหมาโยธา”
ถึงแม้พระยาเจ่ง จะไม่ใช่คนไทยโดยเชื่อสายก็ตาม แต่ท่านประกอบคุณงามความดี ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ มีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อแผ่นดินไทย มีความกตัญญูรู้คุณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของไทยตลอดมา ไม่เคยสร้างความเดือนเนื้อร้อนใจแก่ชาติบ้านเมือง จึงสมควรยกย่องชื่อเสียงเกียรติคุณให้ปรากฏ เพื่อเป็นตัวอย่างแก่อนุชนรุ่นหลังและผู้ที่อพยพเข้ามาพึงพระบรมโพธิสมภารแห่งผืนแผ่นดินไทยสืบต่อไป