บ้านแสนกะบะ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี สภาพภูมิศาสตร์ เป็นที่ราบสูง น้ำท่วมไม่ถึง ดินปนทราย เหมาะสำหรับการปลูกพืชไร่ พื้นที่บางส่วนเป็นที่ราบลุ่ม มีน้ำท่วมถึง อยู่ในเขตทุ่งจอมบึง ใช้ทำนาเป็นส่วนใหญ่ ประวัติการเกิดชุมชน จากหนังสือไทยรบกับพม่าของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ กล่าวว่า พระเจ้าผดุง เมื่อเสวยราชย์ได้ ๓ ปี จึงคิดจะมาตีเมืองไทย ให้มีเกียรติยศเป็นมหาราชเหมือนเช่น พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ดังนั้น ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๓๒๘ จึงได้เตรียมกองทัพ มีกำลังพลถึง ๑๔๔,๐๐๐ โดยจัดเป็นกระบวนทัพ ๙ ทัพ เฉพาะวันที่ ๒ อนอกแฝกคิดหวุ่น เป็นแม่ทัพถือพล ๑๐,๐๐๐ เข้ามาทางด่านบองตี้ ให้พระยาทวายเบิกกองหน้าถือพล ๓,๐๐๐ อนอกแฝกคิดหวุ่น เป็นกองหลวงถือพล ๔,๐๐๐ ให้เจ๊กสิบไบ่ เป็นกองหลังถือพล ๓,๐๐๐ กลายเป็นสมรกูมิ ระหว่างไทยกับพม่า ไทยขนะ ได้ยึดเครื่องศัตราวุธ ช้างม้า พาหนะได้เป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็หนีกลับไปเมืองทวาย จากค่ายพม่าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบึง ประมาณ ๒ กิโลเมตร มีพม่ามาประชุมพลกันจำนวนมาก เวลาเลี้ยงข้าวปลาอาหารไม่มีภาชนะใส่ จึงต้องใช้กระบะแทนจานข้าว ซึ่งต้องใช้จำนวนถึงแสน ชาวบ้านจึงเรียกที่นั้นตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “บ้านแสนกะบะ”แต่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “บ้านแสงกะบะ”มากกว่าจะเรียกว่าบ้านแสนกะบะ หมู่บ้านแสนกะบะ ได้แยกออกมาจากหมู่ที่ ๓ ตำบลจอมบึง อำเภอจอมบึง เมื่อประมาณ พ.ศ.๒๕๒๗ ชาติพันธุ์ในชุมชน เป็นคนเชื้อสายไทยพื้นถิ่น ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำนา ทำไร่อ้อย ทำไร่มันสำปะหลัง และเลี้ยงวัว มีนายนพพร ฟักเขียว เป็นผู้ใหญ่บ้าน