บ้านช้างหมู่ที่ ๒,๖ ตำบลศาลาลอย อำเภอท่าเรือ หมู่บ้านนี้แต่ก่อนเป็นป่าทึบ มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และมีผู้พบเห็นช้างป่าเป็นโขลงๆอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก ภายหลังเมื่อเกิดชุมชนไปก่อสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่ จึงเรียกหมู่บ้านแถวนี้ว่า "บ้านช้าง"
“บ้านช้าง”ที่บ้านช้าง นี้มีศาลที่สำคัญแห่งหนึ่งชื่อว่า “ศาลเจ้าพ่อขุนทองลากชาย ” ตามที่พระราชสัมภากรได้บันทึกไว้ในสัมภากรลิขิตว่าอนึ่ง นายขุนทอง อยู่บ้านท่าช้าง ฝั่งตะวันตกแควป่าสักในแผ่นดินพระนครธนบุรี เจ้าพระยาจักรี ตั้งให้เป็นที่ขุนสัจจาบริรักษ์ นายกองเลขสม ทนายเมื่อไปทัพเมืองนครเสียมราบ ได้ตามไปด้วย ครั้นได้ราชสมบัติ โปรดยกความชอบตั้งให้เป็นที่พระยาท้ายน้ำได้พระราชทานเครื่องยศ ถาดดนาก คนโฑ กระโถน ประคำทองคำ เครื่องทรง ประพาศ สัปทน ดาบฝักทอง
จากการสืบค้นของนักวิชาการพบว่านายขุนทอง ลากชายตั้งบ้านเรือน การที่ขุนทองลากชายได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าพระยาจักรี ให้เป็น “ขุนสัจจาบริรักษ์ “ในสมัยกรุงธนบุรี แสดงว่าท่านเริ่มชีวิตราชการด้วยการฝากตัวกับเจ้าพระยาจักรีก่อน ต่อมานายขุนทองลากชาย ก็ได้เป็นทหารระดับนายกอง มีหน้าที่เป็นคนสักเลขไพร่สม และยังได้เป็นทนาย (คนรับใช้ใกล้ชิดพระยาจักรี) แล้วได้เลื่อนยศเป็น “ขุนสัจจาบริรักษ์” เมื่อสิ้นแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เจ้าพระยาจักรี ก็ได้ปราบดาภิเษกเป็นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ขุนสัจจาบริรักษ์ ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “พระยาท้ายน้ำ” ภายหลังชาวบ้านเห็นว่าท่านเป็นคนพื้นที่ เลยตั้งศาลชื่อว่า “ศาลเจ้าพ่อขุนทองลากชาย” อยู่ตรงหน้าทางเข้าวัดช้างปัจจุบัน.