ในวันที่ ๑๓ เมษายน ของทุกปี เป็นวันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทยในอดีต ซึ่งจะมีประเพณี รดน้ำขอพรผู้ใหญ่หรือการรดน้ำผู้ที่เคารพนับถือ การสรงน้ำพระพุทธรูป การสรงน้ำพระภิกษุ สามเณร การก่อพระเจดีย์ทรายและการปล่อยปลา นับเป็นประเพณีที่สำคัญยิ่งประเพณีหนึ่ง และบอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ที่มีความงดงาม อันเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นชาติ จึงได้ร่วมกันอนุรักษ์สืบสานต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน
สำนักงานวัฒนธรรม จังหวัดสกลนคร ในฐานะที่เป็นตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรม ในส่วนภูมิภาคซึ่งมีหน้าที่ในการบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น จึงได้จัดโครงการสรงน้ำพระพุทธรูป ๙ วัด เสริมสิริมงคลสืบสานประเพณีสงกรานต์ ในระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ของทุกปี เพื่อร่วมรดน้ำขอพรผู้ใหญ่ สรงน้ำพระพุทธรูปและสรงน้ำภิกษุสามเณร ในวัดภายในเขตเทศบาลนครสกลนคร จำนวน ๙ วัด เพื่อให้เกิดสิริมงคลต่อตนเองและธำรงรักษาไว้ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามของไทย ให้คงอยู่สืบไป
วัตถุประสงค์
๒.๑ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้แก่ประชาชนในการอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของไทยและ ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนในท้องถิ่นได้ร่วมกันรักษาเอกลักษณ์อันดีงามของชาติ
๒.๒ เพื่อเป็นการธำรงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรม
แก่ประชาชนและเยาวชนในท้องถิ่น
๒.๓ เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตลอดจนประชาชนทั่วไป ได้มีส่วนร่วมในการ
จัด กิจกรรมของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ซึ่งได้ดำเนินการจัดโครงการในวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๖ ซึ่งมีวัดในเขตเทศบาลนครสกลนคร อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ๙ วัด ดังนี้
๑. วัดป่าสุทธาวาส ๒. วัดแจ้งแสงอรุณ ๓. วัดศรีชมพู ๔. วัดศรีโพนเมือง
๕. วัดเหนือ ๖. วัดสะพานคำ ๗. วัดโพธิ์ชัย ๘. วัดศรีสุมังคล์ ๙. วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
ซึ่งในแต่ละวัดมีประวัติและความสำคัญ ดังนี้
๔. วัดศรีโพนเมือง
วัดศรีโพนเมืองตั้งอยู่เลขที่ ๒๙๗ ถนนกำจัดภัย ตำบลธาตุเชิงชุม ตามประวัติแจ้งว่า ได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๑ ด้วยแรงศรัทธาจากประชาชน โดยมีพระยาประจันตประเทศธานี เจ้าเมืองสกลนคร พร้อมด้วยอุปฮาด ราชวงศ์ เจ้ากรมการเมืองสกลนครและชาวคุ้มตำบลสะพานหินปูชนียวัตถุและปูชนียสถานที่สำคัญ คือพระพุทธรูปพระประธานหน้าตักกว้าง ๒ เมตร พระพุทธชินสีห์ ๓ องค์