ศาลหลักเมืองสุรินทร์ ตั้งอยู่ที่ถนนหลักเมือง ห่างจากศาลากลางจังหวัดไปทางทิศตะวันตกประมาณครึ่งกิโลเมตร เดิมเป็นศาลที่ยังไม่มีศาลหลักเมือง แต่มีความศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไปเป็นเวลานานกว่า 100 ปี ครั้นเมื่อพุทธศักราช 2511 จังหวัดสุรินทร์ได้ดำเนินการขอให้กรมศิลปากรออกแบบแปลนก่อสร้างตัวศาลหลักเมือง ซึ่งสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ซึ่งได้รับมอบมาจากนายประสิทธิ์ มณีกาญจน์ ราษฎร หมู่ที่ 1 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี สูง 3 เมตร วัดโดยรอบได้ 1 เมตร แกะสลักตกแต่งโดยเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากร ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม พุทธศักราช 2515 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพิธีเจิมเสาหลักเมือง ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และพระราชทานดำรัสว่า “การสร้างเสาหลักเมืองนี้ดี เป็นหลักแห่งความสามัคคี ขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความสามัคคีกันสร้างความเจริญให้ก้าวหน้า และขอให้ชาวสุรินทร์จงมีความร่มเย็นเป็นสุข” นายสงวน สาริตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้อันเชิญเสาหลักเมืองมายังจังหวัดสุรินทร์ มีการแห่รอบเมืองและอันเชิญเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานไว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2517 ได้ประกอบพิธียกเสาหลักเมืองและมีพิธีฉลองสมโภช ศาลหลักเมืองจึงเป็นสัญลักษณ์ที่พึ่งทางจิตใจของชาวสุรินทร์ที่ได้รับการเคารพกราบไหว้ตลอดมา