ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 14° 22' 41.4592"
14.3781831
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 33' 29.9192"
100.5583109
เลขที่ : 196141
เครื่องปั้นดินเผาคลองสระบัว
เสนอโดย พระนครศรีอยุธยา วันที่ 6 มีนาคม 2565
อนุมัติโดย พระนครศรีอยุธยา วันที่ 6 มีนาคม 2565
จังหวัด : พระนครศรีอยุธยา
0 593
รายละเอียด

ประวัติความเป็นมา

คลองสระบัวเป็นตำบลหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาชีพปั้นหม้อของชาวบ้านแถบคลองสระบัว เป็นอาชีพเก่าแก่ที่มีหลักฐานความเป็นมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ซึ่งทำกันเป็นล่ำเป็นสัน สมัยนั้นเรียกย่านถิ่นนี้ว่า “บ้านหม้อ” เพราะเป็นแหล่งสำคัญที่ทำหม้อดินเผา และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นคลองสระบัวเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น หม้อที่ยังคงปั้นมีอยู่ 5 ชนิด คือ หม้อต้น หม้อกลาง หม้อจอก หม้อหู และหม้อกา โดยสามอย่างแรกเป็นหม้อลักษณะกลมก้นมนมีฝาปิด (หม้อต้มยา) ส่วนหม้อหู คือ หม้อแกงมีหู และหม้อกา คือ กาต้มน้ำ
ที่นิยมทำขายคือ หม้อกลาง และหม้อจอก เฉพาะขนาดพอเหมาะใช้สำหรับหุงต้ม (Ministryof Culture, 2011)

ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาคลองสระบัว จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของชาวบ้านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีประวัติศาสตร์ที่แสดงถึงวิถีชีวิตพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์สืบทอดกันมา การทำหม้อดินเผาของชาวบ้านที่เป็นช่างฝีมือ โดยการนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาเพื่อการดำรงชีวิต เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือน และงานประเพณี เป็นต้น ปัจจุบันมีความต้องการของภาชนะเครื่องปั้นดินเผาลดลงมากด้วยสภาวะทางสังคมเริ่มมีวัฒนธรรมใหม่ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน หัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาจึงถูกลบเลือนหายไป เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่เข้ามามีบทบาททำให้ความนิยมที่มีลดน้อยลงไปจากเดิมมาก วิถีชีวิตชาวบ้านก็เริ่มเปลี่ยนไปชาวบ้านจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวัฒนธรรมทางสังคม โดยการเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่น แต่มีบางกลุ่มที่ยังคงเห็นคุณค่าของศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านประเภทเครื่องปั้นดินเผาที่ต้องการจะอนุรักษ์และต้องการใช้วัตถุดิบดินเผาคลองสระบัวให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวและชุมชน และต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนเองให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว รวมถึงเป็นงานที่เป็นการกระจายรายได้ไปยังชุมชนอื่นๆ ตามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นางนงค์นุช เจริญพรเกิดและเติบโตมาในชุมชนคลองสระบัว จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ในครอบครัวที่ยึดอาชีพผลิตเครื่องปั้นดินเผาเป็นหลักมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ นางนงค์นุชได้เรียนรู้กระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตามแบบโบราณ เมื่ออายุได้เพียง 8 ปี จากการเริ่มช่วยงานครอบครัว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่ต้องเตรียมดินสำหรับปั้นขึ้นหม้อดินเผาด้วยตนเองทุกครั้งด้วยการใช้เทคนิคการชักช่อ หรือการขึ้นแป้นหมุนไม้ที่ถือเป็นกรรมวิธีโบราณ การเหยียบดิน การรีดดินเพื่อใช้สำหรับขึ้นรูปชิ้นงาน ก่อนจะนำมาขึ้นรูปด้วยการตีหม้อและเผาด้วยวิธีโบราณจนสำเร็จเป็นชิ้นงานที่สมบูรณ์ นางนงค์นุช ถือเป็นช่างที่มีทักษะและความชำนาญในการปั้น “หม้อดินโบราณ” ที่ยังคงเหลือเพียงรายเดียวในชุมชนคลองสระบัวแห่งนี้ โดยยังคงอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตามกรรมวิธีแบบโบราณ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนจนเป็นผู้ที่มีทักษะ
ภูมิปัญญาของการปั้นหม้อดิน อันเป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นที่เลื่องชื่อแห่งคลองสระบัวและได้ยึดการปั้นหม้อเป็นอาชีพหลักอย่างจริงจังมาจนถึงปัจจุบัน

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

เอกลักษณ์ที่โดดเด่นเครื่องปั้นดินเผาฝีมือนางนงค์นุชคือ หม้อดินเผาทรงโบราณที่มีน้ำหนักเบา เนื้อดินบางมีความทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อันเกิดจากความใส่ใจและความละเอียดในกระบวนการผลิตตามแบบโบราณ และวัตถุดิบในท้องถิ่นที่มีคุณสมบัติพิเศษช่วยให้เมื่อนำหม้อดินมาใช้ประกอบอาหารจะทำให้อาหารมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดี นอกจากนี้ “ดินขุยปู”ยังช่วยเคลือบเงาผิวหม้อดินให้มีความเงางามมีผิวลื่นเมื่อนำมาประกอบอาหารจะทำให้อาหารไม่ติดหม้อผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับนางนงค์นุช คือ“หม้อดินเผาโบราณ” ทั้ง 5 รูปแบบ คือ หม้อต้นหม้อกลาง หม้อจอก หม้อหู และหม้อกา ล้วนเป็นหม้อดินที่ถือเป็นเอกลัษณ์ของชุมชมคลองสระบัว โดยเฉพาะ “หม้อกา” เป็นภาชนะที่ปั้นได้ยากเนื่องจากมีขั้นตอนที่มากกว่าการปั้นหม้อดินรูปแบบอื่นๆ จึงเป็นภาชนะที่แทบไม่เหลือผู้ที่สามารถปั้นได้ในปัจจุบัน ยังคงเหลือเพียงนางนงค์นุชเท่านั้นด้วยความชำนาญในการทำเครื่องปั้นดินเผาในทุกรูปแบบ นางนงค์นุชยังได้ฟื้นฟูเครื่องปั้นดินเผารูปแบบโบราณที่สูญหายไปจากชุมชนคลองสระบัว ให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง เช่น เตาเชิงกราน หม้อต้น หม้อกลางหม้อปลาย (หม้อกระจอง) หม้อหู (กระทะ) เป็นต้นด้วยความใส่ใจในผลงานและไม่หยุดที่จะพัฒนาผลงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้นางนงค์นุชได้รับการยอมรับและยกย่องจากคนในชุมชน ในภูมิปัญญาการ “ปั้นหม้อ”คนสำคัญที่มีเพียงแค่นางนงค์นุชเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงมุ่งอนุรักษ์และสามารถปั้นหม้อได้ด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ทำให้ภูมิปัญญาการปั้นหม้อของชุมชนคลองสระบัวยังคงได้รับการสืบทอดอยู่จนถึงปัจจุบัน

ความเชื่อที่เกี่ยวข้องไม่มี

วัสดุที่ใช้

1. เนื้อดินสโตนแวร์ มีวัตถุดิบดังต่อไปนี้

- ดินอยุธยา (Ayutthaya Clay) จากแหล่งดินเหนียวตำบลคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

- ดินขาวระนอง (Ranong Kaolin)

- ทรายแม่น้ำ (Sand)

2. เคลือบ (Glaze) ที่ใช้ในการทดลองเคลือบที่เผาในระดับอุณหภูมิ 1,220 องศาเซลเซียส บรรยากาศออกซิเดชั่น (Oxidation Firing: OF)มีดังต่อไปนี้

- เคลือบด้าน (Mat Glaze) มีวัตถุดิบดังต่อไปนี้

Soda Feldspar ร้อยละ 40

Calcium carbonate ร้อยละ 6

Zinc oxide ร้อยละ 9

China Clay ร้อยละ 10

Flint ร้อยละ 35

- เคลือบไหล (Running Glaze) มีวัตถุดิบดังต่อไปนี้

Soda Feldspar ร้อยละ 45

Calcium carbonate ร้อยละ 36

Zinc oxide ร้อยละ 9

Bone Ash ร้อยละ 1

China Clay ร้อยละ 5

Flint ร้อยละ 35

- วัตถุดิบที่ให้สีได้แก่

Cobalt oxide ร้อยละ 0.3

Copper carbonate ร้อยละ 1.5

Ferric oxide ร้อยละ 2

Titanium oxide ร้อยละ 4

วิธีทำ

ขั้นตอนการเตรียมดินสำหรับปั้นโดยใช้ส่วนผสมในการเตรียมดินด้วยการใช้ดินเหนียว (ดินแก้วแกลบ)4 ส่วน ทรายละเอียด 2 ส่วน และน้ำ 1 ส่วน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันการแตกร้าวให้กับเนื้อดิน เมื่อนำมาปั้นขึ้นรูป โดยก่อนจะนำดินเหนียวมาผสมกับส่วนอื่นๆ ต้องทำการฉะดินก่อน (การถากดินด้วยเปลือกไม้ไผ่เหลาให้บางเพื่อเอาเศษหินออก) เพื่อให้ได้เนื้อดินที่มีความละเอียด หากดินมีความแห้งแข็งเมื่อฉะดินแล้วจะนำไปหมักโดยใช้วิธีการพรมน้ำ แล้วจึงคลุมด้วยใบตองแห้ง เพื่อให้ดินมีความชื้นเล็กน้อย ไม่แข็งตัวจนเกินไป จากนั้นจึงนำมาผสมดินเหนียว ทรายและน้ำเข้าด้วยกัน โดยใช้วิธีการเหยียบดินให้ส่วนผสมทั้งหมดเป็นเนื้อเดียวกัน จึงจะนำเนื้อดินไปใช้ปั้นหม้อได้อย่างเรียบเนียนสวยงาม

ขั้นตอนการปั้นหม้อโบราณโดยนำดินที่เหยียบแล้วมาวางบนช่อ (แป้นไม้เพื่อทำการชักช่อ ซึ่งการชักช่อถือเป็นการหมุนช่อเพื่อรีดดินขึ้นชิ้นงานให้เป็นรูปทรง) กองให้อยู่ตรงกลางเพื่อปั้นขึ้นรูป “หม้อหุ่น” มีลักษณะเป็นรูปทรงหม้อที่ยังไม่มีก้นหม้อนำมาตากแดดจนดินหมาดแต่ห้ามให้ดินแห้งสนิทเพื่อให้สามารถนำไปตี เพื่อแต่งรูปทรงของหม้อต่อไปได้ การตีแต่งทรงหม้อจะมีไม้ลายสำหรับตีแต่งทรงก้นหม้ออยู่ 2 แบบ คือ ไม้ลายละ (ไม้ตีขนาดใหญ่ มีลักษณะแบนหนาประมาณ 1 นิ้ว) และไม้ลายเล้ม (ไม้ตีขนาดเล็กกว่าไม้ลาย 1 เท่า มีลักษณะแบนหนาประมาณ 1 นิ้ว) โดยการตกแต่งหม้อหุ่นมีวิธีการ คือ นำไม้ลายละมาตีก่อนเพื่อเป็นการตกแต่งก้นหม้อ จากนั้นจึงนำมาตกแต่งด้วยขั้นตอนไม้ลายเล้ม โดยตลอดการตีช่างปั้นหม้อจะใช้หินดุนด้านในหม้อเพื่อให้ได้ทรงหม้อตามต้องการซึ่งขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะตัวของช่าง ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการผลิตหม้อดิน เพราะหากตีไม่ดี ไม่เสมอกัน หม้อจะมีรูปทรงไม่สวยงาม

เทคนิคเฉพาะในการทำหม้อดินฝีมืออีกประการหนึ่ง คือ การใช้ “ดินขุยปู” (ดินท้องถิ่นที่หาได้
ตามทุ่งนา) ดินมีสีเหลืองนำมาทาหม้อ เพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับดินที่ปั้น ทำให้หม้อที่เผาออกมามีสีแดงสวยแล้วขัดหม้อให้ขึ้นเงาด้วยหินจากน้ำตก เป็นองค์ประกอบที่ทำให้หม้อที่เผาแล้วมีสีสวย หม้อเงางาม และจะช่วยให้อาหารไม่ติดหม้อ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาโบราณที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน

บทบาทหน้าที่และความสำคัญในอดีตและปัจจุบันไม่มี

วิธีการเรียนการสอน การเลี้ยงดู

นางนงค์นุช มุ่งมั่นทุ่มเทถ่ายทอดองค์ความรู้ในงานการปั้นหม้อและหม้อดินเผาโบราณ เอกลักษณ์ของชุมชนคลองสระบัวที่ตนเองมีทั้งหมดแก่ผู้สนใจในทุกโอกาสโดยไม่หวงวิชา ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการให้งานฝีมืออย่างเครื่องปั้นดินเผาซึ่งเป็นศิลปะและเป็นอาชีพเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา คงอยู่ในพื้นที่เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้า และเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมอันสำคัญของชุมชนและหวังที่จะไม่ให้สูญหายไปจากพื้นถิ่นนี้ นางนงค์นุชยังคงเน้นการอนุรักษ์รูปแบบและกรรมวิธีการทำงานแบบดั้งเดิมที่มีลักษณะเฉพาะของเครื่องปั้นดินเผาคลองสระบัวเอาไว้ทั้งหมด มีเพียงการนำผลิตภัณฑ์มาพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้เด็กสามารถทำเองได้ง่ายขึ้น และยังสามารถนำไปเป็นของที่ระลึกมอบให้ในโอกาสต่างๆ ได้ เช่น หม้อจิ๋ว และเตาเชิงกรานจิ๋วเพราะเหตุนี้ทำให้เด็กและเยาวชนในชุมชนหันมาสนใจงานหัตถกรรมด้านนี้มากขึ้น

ประโยชน์ของภูมิปัญญา

ผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผามีมากมายหลายชนิด ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น เช่น หม้อดินเผาโบราณ ถ้วย กาน้ำ แก้วน้ำ และจานรองแก้วเป็นต้น ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นนางนงค์นุชทั้งสิ้น ทั้งนี้เพื่อต้องการแก้ปัญหาในการดำรงชีวิตและตอบสนองความต้องการของมนุษย์ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจให้มนุษย์มีความเป็นอยู่ที่มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นตามแต่ละยุคสมัย

สถานที่ชุมชนคุณธรรมบ้านคลองสระบัว อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สถานที่ตั้ง
ชุมชนคุณธรรมบ้านคลองสระบัว
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน -
ตำบล คลองสระบัว อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
นางนงค์นุช เจริญพร
บุคคลอ้างอิง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด พระนครศรีอยุธยา อีเมล์ ayutthayaculture@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีเมล์ ayutthayaculture@gmail.com
เลขที่ - หมู่ที่/หมู่บ้าน - ซอย - ถนน สายเอเซีย
ตำบล คลองสวนพลู อำเภอ พระนครศรีอยุธยา จังหวัด พระนครศรีอยุธยา รหัสไปรษณีย์ 13000
โทรศัพท์ 0 3533 6882 - 3 โทรสาร 0 3533 6881
เว็บไซต์ -
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่