ประวัติ
นางเพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2469 ที่ ตำบลธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรคนสุดท้องของนายบุญมา และนางน้ำ วชิโรดม โดยเป็นบุตรคนสุดท้อง สำหรับชีวิตครอบครัว เพ็ญพรรณ สมรสกับนายแถมชัย สิทธิไตรย์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา มีบุตร - ธิดา 6 คน
การศึกษา
เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์สำเร็จการศึกษาระดับวิชาชีพชั้นสูง จากโรงเรียนการช่างสตรี พระนครใต้ กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ. 2489 และได้รับปริญญาครุศาสตร์บัณฑิตกิตติมศักดิ์ โปรแกรมวิชาคหกรรมศาสตร์ทั่วไป สายมัธยมศึกษา สาขาวิชาการศึกษา วิทยาลัยครูจันทรเกษม สหวิทยาลัยรัตนโกสินทร์ กรุงเทพฯ เมื่อ พ.ศ.2533
ประวัติการทำงาน
เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ทำงานโดยการรับราชการเป็นครูมาตลอดชีวิตราชการ นับตั้งแต่ พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา โดยเริ่มต้นบรรจุที่โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดสกลนคร ต่อมาใน พ.ศ. 2498 ได้ย้ายมาสอนที่โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดตรัง และ โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดสมุทรสงคราม
ใน พ.ศ. 2502 ได้ย้ายไปสอนที่โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาใน พ.ศ. 2505 ได้ย้ายไปสอนที่โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดนครปฐม พ.ศ.2510 ย้ายไปสอนที่โรงเรียนการช่างสตรี จังหวัดสุโขทัย และใน พ.ศ.2529 ได้ย้ายมาสอนที่โรงเรียนการช่างสตรี โชติเวช หรือในปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตโชติเวช เป็นที่สุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ใน พ.ศ. 2530
สำหรับวิชาที่อาจารย์เพ็ญพรรณสอนนั้น เป็นวิชาศิลปะประดิษฐ์ ควบคู่ไปกับจริยศึกษา หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และสังคมศึกษา
ผลงานการประดิษฐ์ที่สำคัญ
เพ็ญพรรณ สิทธิไตรย์ ถือว่าเป็นผู้มีผลงานแกะสลักเครื่องสด ผลงานที่สำคัญอันได้แก่ การซ่อมแซมเพดานเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ โดยปักลายผ้าตกแต่งเรือ และเรือในขบวนทั้งหมดในงานฉลองกรุงรัตน โกสินทร์ 200 ปี และรับสนองพระบรมราชโองการประดิษฐ์ผักและแกะสลักผลไม้ในงานเลี้ยงรับรองราช อาคันตุกะจากต่างประเทศ และงานเลี้ยงสโมสรสันนิบาตในวันฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ที่พระบรมมหาราชวัง
ประดิษฐ์ดอกมะลิจากแห้วจำนวน 500 ดอก ในงานอภิเษกสมรสสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เมื่อปี 2528 และประดิษฐ์มะพร้าวอ่อน 250 ผลเป็นผอบ เพื่อส่งไปงานเลี้ยงพระราชทานที่สหรัฐ อเมริกา ในคราวที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ เสด็จฯ เผยแพร่งานศิลปวัฒนธรรมของไทย
ปัจจุบันนั่งตำแหน่งที่ปรึกษานิตยสารหญิงไทย เป็นคอลัมนิสต์ ศิลปะประดิษฐ์ ทั้งยังเป็นครูสอนศิลปะแกะสลักที่โรงแรมดังหลายแห่ง มีลูกศิษย์ลูกหามากมายทั้งไทยและต่างชาติที่บินมาเรียนกันถึงที่บ้าน ทั้งยังเขียนตำรับตำราไว้มากมาย เช่น ศิลปะการแกะสลักผักและ ผลไม้ อาหารวิจิตรและแกะสลักวิจิตร ฯลฯ
นอกจากนี้ มีงานที่ตรึงใจอย่าง "โคมลอย พระราชพิธีจองเปรียง" รวมถึงสารา นุกรมไทยสำหรับ เยาวชน เล่มที่ 13 โดย พระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
จตุตถดิเรกคุณาภรณ์ (จ.ภ.)[1]
อ้างอิง
ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๓
หนังสือศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ของ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ