ท่านเป็นผู้มีบุญมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา มารดาฝันว่า “มีคนถือร่มขาวมาส่งให้ เมื่อมารดารับร่มไว้แล้ว บุคคลนั้นก็หายไป” ความฝันนี้ถือเป็นบุพนิมิตอันดีและเป็นมงคลแก่ตัวท่าน บิดา มารดา พระศาสนาและสังคมในเวลาต่อมา
พ.ศ. ๒๔๑๗ ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศาลาแก้ว สี่พรรษาต่อมา (พ.ศ. ๒๔๒๑) ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ วัดศาลาแก้ว
ท่านเป็นผู้ที่เรียนหนังสือเก่ง มีความจำ สติปัญญาที่เป็นเลิศ อาจารย์ของท่าน คือท่านอาจารย์บุญทอง ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาแก้วก่อนพระครูพนังฯ
ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดศาลาแก้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๘ – ๒๔๗๐
พ.ศ. ๒๔๓๓ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌายะและเป็นพระภิกษุรูปแรกที่ได้วางรากฐานการเรียนการสอนหนังสือไทย (การศึกษาสมัยใหม่) ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ไว้ให้คู่ชุมชน กำเนิดโรงเรียนวัดศาลาแก้ว มีอายุมาจนถึงปัจจุบันนี้ รวมอายุได้ ๑๑๓ ปี
ในช่วง พ.ศ. ๒๔๓๓ ท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูพนังศีลวิสุทธิ์พุทธภักดี
ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะแขวงในสมัยนั้น (เจ้าคณะอำเภอในปัจจุบัน)
ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการจัดการศึกษาของอำเภอหัวไทรในขณะนั้น ท่านได้ทุ่มเทอุทิศเวลาให้กับการศึกษาแผนใหม่ ควบคู่กับการเผยแพร่พระศาสนาเท่าๆ กัน เป็นเวลานานถึง ๓๗ปี (ในระยะเริ่มต้นของการจัดการศึกษาสมัยใหม่ พระภิกษุสงฆ์มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำชุมชนหรือสังคม)
ท่านเป็นบูรพาจารย์ที่คู่ควรการกราบไหว้ของผู้คนทั้งอำเภอหัวไทร