ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
คุณได้ออกจากระบบ ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม คุณไม่ได้รับอนุญาติให้ทำการเข้าใช้ในส่วนนี้
Latitude : N 14° 33' 22.5241"
14.5562567
Longitude : E 100° 45' 34.2292"
100.7595081
No. : 131925
นางสุภา แสงสว่าง
Proposed by. pronpajong Date 23 April 2012
Approved by. พระนครศรีอยุธยา Date 18 June 2012
Province : Phra Nakhon Si Ayutthaya
0 3691
Description

ชื่อ นางสุภา แสงสว่าง ชื่อเรียกขานเฉพาะ แม่สุภา

ประวัติส่วนตัว เกิดวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕ อายุ ๕๐ ปี ที่อยู่ปัจจุบัน

เลขที่ ๒/๖๗๖ หมู่ที่ ๕ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์๐๘๙๐๘๔๘๘๑๑

ความสำคัญ เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทำขนมไทยพื้นบ้าน ที่สามารถยกระดับ

คุณภาพงาน ด้านการทำขนมบ้าบิ่น โดยการนำมะพร้าวมาแปรรูปผสมแป้งน้ำตาลนำไปอบให้แห้งจนเป็นขนมบ้าบิ่นที่มีชื่อเสียงของอำเภอท่าเรือ

ผลงาน ได้แก่ "ขนมบ้าบิ่นแม่สุภา "อำเภอท่าเรือ เป็นสูตรเฉพาะรางวัลที่ได้รับ

๑. ผลิตภัณฑ์ดีเด่นระดับ ๕ ดาว ได้รับรองมาตรฐาน อย.จากสาธารณสุขจังหวัด

พระนครศรีอยุธยา

ประวัติความเป็นมา ขนมบ้าบิ่นเกิดขึ้นในชุมชนวังแดงหน้าวัดวังแดงใต้อยู่ตรงข้ามกัน

กับบ้านแม่เสียน เอิบกมล ต้นตำหรับจากย่าคร้าม ปู่ปลอด เอิบกมล ซึ่งทำขนมบ้าบิ่นขายที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยุ่ที่อำเภอท่าเรือ ตำบลวังแดงยังมีขนมบ้าบิ่นขายเหมือนกันกับของแม่เสียน เป็นของนายโต นางปัด ชีตารักษ์ชาวบ้านวังแดงเหมือนกันปลุกบ้านอยู่ติดๆกัน ซึ่งต้นตำหรับมาจากย่าคร้าม ปู่ปลอดเช่นกัน ซึ่งเป็นพ่อของนายโชติ นางแหวน ต้นตระกูล "เอิบกมล " ซึ่งเป็นเจ้าของคานเรือ ประวัติความเป็นมาของขนมบ้าบิ่นจะผูกพันกันมาเป็นลูกโซ่ เนื่องจากว่าพ่อโชติ แม่แหวน มีคานเรือ เมื่อมีคานเรือก็จำเป็นต้องใช้กะลามะพร้าวเพื่อเผาเพรียง (หอยที่เจาะกินเนื้อไม้) ใต้ท้องเรือ ส่วนเนื้อมะพร้าวจึงเอาไปใช้ทำขนมกินกัน สมัยก่อนเมื่อเรือไปมาสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องติดเรือไว้ก็คือ มะพร้าว แป้ง น้ำตาล เนื่องจากต้องใช้กะลาเผาเพรียงเรือให้ตาย ดังนั้นเนื้อมะพร้าวก็ยังสามารถนำมาใช้ทำขนมที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นขึ้นมา

ทำไมจึงเรียกขนมบ้าบิ่น เนื่องจากขนมบ้าบิ่นทำยาก เริ่มตั้งแต่การขูดมะพร้าวสมัยก่อน

ไม่มีเครื่องขูด ตอนนั้นใช้เครื่องขูดชนิดหนึ่งที่เป็นไม้แบน ๆ มีห่วงกลม ๆ อยู่ปลายไม้ เรียกว่า "ตีนแมว" ถ้าขูดมะพร้าวเพียงลูกเดียวคงขูดแบบเนื่อย ๆได้แต่ถ้าต้องขูดหลายลูก ที่ใช้ทำขนมคงขูดเนือยๆไม่ได้ จึงต้องใช้แรงมากในการขูด เหมือนกับการขูดแบบบ้าบิ่น มะพร้าวมีกะลา มีขุย ถ้าขูดไม่หมดก็จะติดลงไปในเนื้อมะพร้าวดูไม่น่ากิน ต้องใช้มีดลืนเกลาให้ขุยออกหมดและต้องเกลาอย่างบ้าบิ่น สมัยโบราณแป้งสำเร็จรูปไม่มีต้องใช้โม่แป้งหรือตำโขลก ตำเหยาะแหยะก็คงไม่เสร็จ ก็ต้องอาศัยแรงมากในการตำหรือโม่ คล้ายกับต้องทำอย่างบ้าบิ่น สุดท้ายก็คือตอนอบขนมบ้าบิ่น มันร้อนมากต้องเผาข้างบนและเผาข้างล่าง

สรุปจุดกำเนิดที่วังแดงก็เนื่องจากกะลามะพร้าวที่ใช้ในการเผาเพรียง แม่สุภาได้สูตรขนม

นี้มาจากแม่ของสุภาคือแม่เฉลียวเป็นชาวเรือ น่าจะเอาเรือไปขึ้นคาน แม่ของแม่สุภาจึงได้สูตรมาจากการแลกเปลี่ยนเมื่อคราวที่เอาเรือไปขึ้นคานนั่นเอง

ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่าเจ้าแรกที่ขายในท่าเรือชื่อว่า "ป้าบิ๋น" ก็เลยเรียกเพี้ยนมา

เป็น "บ้าบิ่น" จุดเริ่มต้นดังของขนมบ้าบิ่นก็คือ ที่ขายสถานีรถไฟ สมัยก่อนการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือรถไฟเวลาคนเดินทางผ่านไปมาก็จะซื้อขนมบ้าบิ่นที่สถานีรถไฟท่าเรือ

ปัจจุบันขายบรรจุกล่องละ ๔ ชิ้น ๑๐ บาท ,๑๒ ชิ้น ๓๕ บาท หาซื้อได้ที่ร้านข้าวแกง

บ้านสวนวังน้อยและตามที่สั่งทำ และส่งขายโรงงานแถวโคราช

Category
Local Scholar
Location
บ้านพัก
No. ๒/๖๗๖ Moo หมู่ที่ ๕
Tambon ท่าหลวง Amphoe Tha Ruea Province Phra Nakhon Si Ayutthaya
Details of access
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
Reference สำนักงานพัฒนาชุมชนอ.ท่าเรือ
Organization พ.ช.อ.ท่าเรือ
Tambon ท่าเรือ Amphoe Tha Ruea Province Phra Nakhon Si Ayutthaya
Comment
Please Login Before comment.

Username
Password
No comment.
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่