ท้าวสีทนมโนราห์ เป็นวรรณกรรมท้องถิ่น เนื้อเรื่องกล่าวถึงนางมโนราห์เป็นธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพระยากินนร นางมโนราห์และพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำที่สระน้ำอโนดาต เจอพรานบุญที่ต้องการจับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงามคู่ควรแก่ท้าวสีทน โอรสแห่งเมืองเป็งจาน พรานบุญได้จับนางมโนราห์ไปถวายท้าวสีทน ท้าวสีทนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน คราวเกิดศึก ท้าวสีทนออกไปรบส่วนนางมโนราห์โดนใส่ร้าย เนื่องจากปุโรหิตแค้นใจที่ธิดาของตนเองไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นมเหสี จึงแต่งเรื่องจนนางมโนราห์ถูกนำไปบูชายัญ นางมโนราห์ จึงออกอุบาย ขอปีกกับหางนางคืน เพื่อร่ายรำหน้ากองไฟก่อนจะตาย เมื่อนางได้ปีกกับหางแล้ว นางก็ร่ายรำได้สักพักก็บินหนีไป ไปเจอฤาษีก็ได้กล่าวกับฤาษีว่า หากท้าวสีทนตามมาให้บอกว่าไม่ต้องตามนางไป เพราะมีภยันอันตรายมากมาย และได้ฝากภูษาและธำมรงค์ให้พระสุธน เมื่อนางมโนราห์ได้กลับไปที่เมืองก็จะได้มีพิธีชำระล้างกลิ่นอายมนุษย์ ฝ่ายท้าวสีทนที่กลับจากสงครามได้ลงโทษปุโรหิต และติดตามหานางมโนราห์ เมื่อเจอพระฤาษี พระสุธนได้ศึกษาพระเวทกับพระฤาษี แล้วออกติดตามนางมโนราห์ ผ่านอุปสรรคจนครองคู่กัน ซึ่งถ้ำของพระฤาษีนี้ได้มีการบอกเล่าต่อมาว่าอยู่ในบริเวณวัดสว่างอารมณ์ อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ โดยทางวัดสว่างอารมณ์ก็จัดสร้างถ้ำพระฤาษีจำลองไว้ในวัดเพื่อประชาชนเข้ามาสักการะและเที่ยวชมอีกด้วย