ครูบากัญจนอรัญวาสีมหาเถร หรือ ครูบามหาเถร แห่งวัดสูงเม่น ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ เป็นพระนักปฏิบัติชื่อดังในอดีต ตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์
อัตโนประวัติ ครูบามหาเถร เดิมชื่อ ปอย เป็นบุตรของนายสปินนะและนางจันทร์ทิพย์ ราษฎรในหมู่ที่ ๒ ต.สูงเม่น อ.สูงเม่น จ.แพร่ เกิดปีระกา พ.ศ. ๒๓๓๒ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑
ครูบามหาเถรบรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุยังน้อย และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๕๒ ที่วัดศรีชุม เมืองแพร่ ได้ฉายาว่า กัญจนภิกขุ
ท่านได้ทำการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและภาษาบาลีจนแตกฉาน รวมทั้งภาษาล้านนาได้ช่วยเป็นครูสอนพระภิกษุในวัดศรีชุมต่อมาระยะหนึ่ง ก่อนย้ายมาจำพรรษาอยู่วัดสูงเม่น
ครูบามหาเถรให้ความสนใจทางด้านวิ ปัสสนากัมมัฎฐาน มุ่งศึกษาจนแตกฉาน สามารถเป็นครูสอนได้อย่างเชี่ยวชาญ
ภายหลังได้ศึกษาต่อที่วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ เข้ารับการศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฎฐานกับพระมหาราชครูแห่งวัดสวนดอก เนื่องด้วยพระมหาราชครูมีเชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ มีอำนาจทางคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก แต่ท่านได้มีความเลื่อมใสครูบามหาเถรที่มีความเชี่ยวชาญด้านอักษรบาลีและพระธรรมวินัย จึงได้แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน
พ.ศ. ๒๔๐๒ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ ได้รับสมณศักดิ์ฉายยาจากเจ้าหลวงเชียงใหม่ว่า ครูบากัญจนอรัญญวาสีมหาเถร
ครูบามหาเถรเดินธุดงค์ไปศึกษาเล่าเรียนต่อในประเทศพม่า จนสำเร็จฌานสมาบัติชั้นสูง ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตและพระอรหันตธาตุ นำมาทูลเกล้าต่อเจ้าหลวงอินทวิชัยราชา เจ้าเมืองแพร่
ต่อมา เจ้าหลวงเมืองแพร่ได้นำเข้าถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ แต่พระองค์ท่านทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงให้นำกลับมาไว้ที่เจดีย์วัดมหาโพธิ์ ต.ป่าแมต อ.เมือง จ.แพร่ เพื่อเป็นสมบัติของชาวแพร่สืบไป
ท่านได้บูรณปฎิสังขรณ์ถาวรวัตถุพระพุทธศาสนาไว้ทั่วภาคเหนือ สะสมสรรพวิชาไว้ในคัมภีร์ใบลาน นอกจากนี้ ชาวสูงเม่นได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ทรงหกเหลี่ยมย่อยมุมไม้ ๑๒ ภายในบรรจุพระบรมธาตุและพระสารีริกธาตุ ซึ่งครูบามหาเถรนำมาจากประเทศพม่าเมื่อปี พ.ศ ๒๓๘๓ จำนวน ๓ ดวง และประดิษฐานรูปเหมือนจำลองของครูบามหาเถรไว้ที่เจดีย์แห่งนี้ และดำเนินการสร้างเส็รจ.เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘
ครูบามหาเถรใช้เส้นทางเดิมศึกษาธรรมะจากแพร่ไปเชียงใหม่ จากแพร่ไปเมืองตาก ผ่าน แม่สอด เมืองระแหง ข้ามไปประเทศพม่าได้สร้างผลงานไว้มากมายอาทิ
พ.ศ. ๒๓๘๓ สร้างเจดีย์วัดมหาโพธิ์ ต.ป่าแมต อ.เมืองแพร่
พ.ศ. ๒๔๐๓ หล่อระฆังกังสดาลใหญ่ที่วัดพระสิงห์
พ.ศ. ๒๔๑๒ ร่วมกับพระเจ้ากาวิโรรส จ้านครเชียงใหม่ บูรณปฎิสังขรณ์หอพระไตรปิฎก วัดพระสิงห์
ที่วัดสูงเม่นได้แกะสลักพระพุทธรูปไม้จำนวนมาก สร้างหอไตรวัดสูงเม่นและวัดศรีดอก ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น รวมไปถึงวัดดอนแกว ต.น้ำชำ อ.สูงเม่น
ปัจจุบัน วัดสูงเม่นได้เก็บรวบรวมคัมภีร์โบราณล้านนาไว้เป็นจำนวนมาก กลายเป็นแหล่งวรรณกรรมและตำรา รวมถึงการบันทึกเรื่องราวในอดีตไว้อย่างน่าสนใจ
จากการสำรวจและศึกษาวิจัย พร้อมทั้งทำการรวบรวมเก็บรักษาอย่างถูกวิธีจากผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี ม.ร.ว.รุจยา อาภากร เป็นประธานคณะกรรมการ ดร.ฮัลเลห์ เพนธ์ เป็นที่ปรึกษา เข้ามาศึกษาค้นคว้าเพื่อการอนุรักษ์และจัดแยกหมู่ ถ่ายไมโครฟิล์มไว้ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดแยกคัมภีร์ออกเป็นมัด บรรจุใส่ถุงผ้าจำนวน 2,567 จัดเป็นผูกได้ 8,845 ผูก
จำแนกหมวดหมู่ รหัสชื่อเรื่อง ระบุจำนวนผูกปีและรหัสไมโครฟิล์มไว้อย่างเป็นระบบ บรรจุใส่ตู่จำนวน 10 หลัง มีอยู่ทั้งหมด 21 หมวด ดังนี้
1. พระวินัย 2. พระสุตตันตปิฎก 3. พระอภิธรรม 4. คัมภีร์ภาษาบาลี 5. บทสวดมนต์ 6. อานิสงส์ 7. ชาดก 8. โอวาทคำกลอน 9. ประเพณีพิธีกรรม 10. ธรรมทั่วไป 11. นิยายธรรม 2122. นิยายนิทานพื้นบ้าน 13. ตำนานพุทธศาสนา 14. ตำนานเมืองราชวงศ์ 15 กฎหมาย 16. ตำราอักษรศาสตร์17. กวี นิพนธ์ ร้อยกรอง 18. ตำราโหราศาสตร์ 19. ตำรายา 20. รวมหลายหมวด 21. อื่นๆ
ครูบามหาเถร จึงนับเป็นพระภิกษุที่คุณประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนาไว้อย่างมหาศาลยิ่ง.
ผลงานของครูบากัญจนอรัญญวาสีมหาเถร วัดป่าสูงเม่น
หลักที่ ๗๙ จารึกบนฆ้องวัดพระธาตุ จ.ลำพูน สร้างหล่อกังสะดาน หน่วยนี้แต่เมื่อจุลศักราช 1222 ปีกดสัน เดือน 9 ออก 3 ค่ำ วันอังคาร (พ.ศ. 2403ป หล่อกัญจนะเจ้าวัดป่าเมืองแป่ เป็นแก่ศรัทธาภายใน เจ้าหลวงเมืองเชียงใหม่เป็นแก่ศรัทธาภายนอก พร้อมกันสร้าง หล่อในวัดพระสิงห์ เมืองเชียงใหม่ มาไว้เป็นเครื่องบูชาทานกับพระธาตุเจ้าอันตั้งไว้ในเมืองหริภุญชัย ที่นี้ 5,000 พระวสาแล ได้ 136 ปี
คำบูชาพระธาตุเจ้าหริภุญชัย
สุวัณณะเจติยัง, หะริภุญชะยุฎธัง, วะระโวรีธานัง, อุรัฎฐิเสฎฐัง, สะหะอังคุลิฎฐิง, กัจจายะนเนานีตะ, ปัตตปูรัง,สีเสนะมัยหัง, ปะนะมานิธาตุง, อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ
ข้าพเจ้าขอเอาเศียรเกล้าของข้าพเจ้า, นอบน้อมพระธาตุอันเป็นพระเจดีย์ทอง, ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหริภุญชัย, คือพระอัฎฐิเบื้องธารพระโมลีอันประเสริฐ, พระอัฎฐิเบื้องพระทรวงอันประเสริฐสุด, กับทั้งพระอัฎฐิพระองคุลี, และพระธาตุย่อยเต็มบาตรหนึ่ง, อันพระกัจจายะนะนำมา, ข้าพเจ้าขอวันทา, ในกาลทุกเมื่อแลฯ
ครูบามหาเถรเป็นผู้ที่มีปัญญาเฉียบแหลม ได้ศึกษาพระธรรมจนแตกฉานถึงขั้นสมบัติชั้นสูงและความรอบรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย ได้จารึกแสวงบุญไปยังเมืองต่างๆเป็นนักบุญแห่งล้านนาองค์หนึ่ง ได้เดินทางไปยังวัดต่างๆทั้งในจังหวัดแพร่และจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือ เพื่อชักชวนพระสงฆ์และฆราวาสผู้มีความรู้ ให้มาจาร(จารึก)ความรู้แขนงต่างๆลงในใบลาน ทำการสังคายนาเพื่อสงวนไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา ได้ดำเนินการหลายวัดในจังหวัดแพร่ เช่น วัดสูงเม่นวัดศรีชุม วัดมหาโพธิ์ วัดเหมืองหม้อ วัดช้างค้ำ จังหวัดน่าน วัดสวนดอก วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ วัดศรีจุมแก้ว กว้างหัวเวียง จังหวัดลำปาง วัดป่าอัมพวัน เมืองระแหง จังหวัดตาก นอกจากนั้นได้เดินทางไปดำเนินการ ณ ประเทศใกล้เคียง เช่น วัดวิสชุลาวนาราม เมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว เป็นต้น ทุกแห่งที่ครูบามหาเถรได้ดำเนินการสังคายนาพระไตรปิฏก และจารลงในใบลาน ครูบามหาเถรจะนำคัมภีร์ใบลานส่วนหนึ่งมาไว้ที่วัดสูงเม่น และมีการเก็บรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน
นอกจากการสังคายนาพระไตรปิฏกแล้ว ครูบามหาเถรยังได้ดำเนินการชักชวนศรัทธาสร้างเจดีย์ หอพระธรรม หอระฆัง พระพุทธรูปไว้ในวัดต่างๆมากมายและมีการบันทึกลงในศิลาจารึกของวัดต่างๆหลายวัด
ด้านการปกครองสงฆ์ นอกจากเป็นเจ้าอาวาสสูงเม่นแล้ว ครูบามหาเถรได้