พระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) พระภิกษุสงฆ์ผู้ให้กำเนิดพระวิปัสสนากรรมฐานและพัฒนาการศึกษาสงฆ์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พระธรรมเจดีย์มีนามเดิมว่า จูม จันทรวงศ์ เกิดที่บ้านท่าอุเทน ตำบลท่าอุเทน อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2431 เป็นบุตรคนที่ 3 ของนายคำสิงห์ และนางเขียว จันทรวงศ์ ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่
เมื่อครั้งยังเป็นสามเณรมีโอกาสได้ศึกษาธรรมปฏิบัติจากพระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน คือ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล และท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เมื่อบวชเป็นภิกษุได้เดินทางไปจำพรรษาที่วัดเทพศิรินทราวาส เพื่อศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเวลาหลายปี
ในพ.ศ.2466 พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ทรงรับสั่งให้เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสเลือกพระเปรียญเพื่อไปเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ในจังหวัดอุดรธานี พระธรรมเจดีย์ได้รับการคัดเลือกจึงได้เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 2 แห่งวัดโพธิสมภรณ์ ต่อจากพระครูธรรมวินยานุยุต (หนู) ที่ชราภาพมากแล้ว
เมื่อดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ในฐานะนักปกครองพระธรรมเจดีย์ ได้พัฒนาวัดโพธิสมภรณ์ให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าทุกๆ ด้าน ทั้งทางศาสนสถาน ศาสนศึกษา ศาสนบุคคล และศาสนธรรม ส่งเสริมให้มีการศึกษาพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง และได้สนับสนุนให้มีการสร้างวัดฝ่ายธรรมยุตในจังหวัดอุดรธานีจำนวน 100 แห่ง
พระธรรมเจดีย์มีทั้งความเป็นผู้นำ ปกครองด้วยหลักพรหมวิหารธรรม ยึดมั่นในพระธรรมวินัยและกฎระเบียบ ประพฤติดีปฏิบัติชอบสร้างสมบารมีเรื่อยมาจนได้เป็นพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง ท่านเป็นผู้ปกครองสงฆ์ในบทบาทของเจ้าอาวาส ผู้รักษาการเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะมณฑลอุดรธานี สมาชิกสังฆสภา และเจ้าคณะธรรมยุติผู้ช่วยภาค 3,4 และ 5
พระธรรมเจดีย์อุทิศตนเพื่อเผยเผ่หลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย และมรณภาพเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 รวมอายุได้ 74 ปี คุณงามความดีของพระธรรมเจดีย์ที่มีต่อพุทธศาสนาสาธุชนจึงยกย่อให้เป็นปูชนียบุคคลของชาวอีสานในเวลาต่อมา