บ้านโคกหัวข้าว หมู่ที่ ๓ ตั้งขึ้นประมาณ พ.ศ. ๒๓๒๕ โดยปลัดกองโสมกับชาวบ้านที่อพยพมาจากเมืองเวียงจันทน์ เป็นผู้ตั้งชื่อหมู่บ้าน แรกเริ่มสภาพเดิมเป็นป่าดงดิบ มีสัตว์อาศัยอยู่มากมายหลายชนิด เช่น เสือ ช้าง กวาง เก้ง หมูป่า เป็นต้น เมื่อปลัดกองโสมกับชาวบ้านอพยพมาอยู่ต่างก็ช่วยกันหักร้างถางพงจับจองแบ่งที่กันทำมาหากิน อาชีพหลักที่ทำกันคือ การทำนาปลูกข้าว ทำไร่ ปลูกฟักแฟงแตงกวา เป็นอาหาร ประกอบกันมีห้วยน้ำไหลผ่านตลอดปี ทำให้พืชพันธุ์ธัญญาหารที่ปลูกไว้ได้ผลอุดมสมบูรณ์ดีทุกปี และตรงส่วนหน้าของหมู่บ้านมีโคกเป็นเนินสูงใหญ่ ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของตนว่า “หมู่บ้านโคกหัวข้าว" และเรียกชื่อนั้นมาจนทุกวันนี้
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบ้านโคกหัวข้าวส่วนใหญ่มีเชื้อสายมาจากลาวเวียงจันทน์ โดยอพยพมาทางลุ่มแม่น้ำโขง ประวัติเดิมมีว่า ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เจ้าอนุวงศ์เจ้าเมืองเวียงจันทน์เป็นกบฏ เจ้าอนุวงศ์ถูกจับตัวได้ กองทัพเมืองเวียงจันทน์ถูกกองทัพไทยตีแตก ต่างฝ่ายต่างหนีเอาตัวรอด บางพวกก็หนีกลับไปเมืองเวียงจันทน์ บางพวกก็หนีไปอยู่ที่อื่น ฝ่ายปลัดกองโสมก็ได้ชวนสมัครพรรคพวกหนีมาตั้งถิ่นฐานอย่างปัจจุบันนี้ ต่อมาได้ตั้งวัด สร้างโบสถ์สำหรับบวชลูกหลานตามประเพณีของพุทธศาสนา ส่วนการปกครองในระยะแรกปกครองกันเองมีผู้นำคือ หัวหน้าหมู่บ้าน ทุกคนจะต้องเชื้อฟังและปฏิบัติตาม ในระยะต่อมาได้มีการตั้งผู้ใหญ่บ้านเป็นทางการขึ้น ส่วนขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมต่าง ๆ นั้น ได้ปฏิบัติตามแบบของเวียงจันทน์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ แต่มีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามแบบสมัยใหม่ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
ปัจจุบันบ้านโคกหัวข้าว มีนายภัทรศักดิ์ บริบูรณ์ทรัพย์ เป็นผู้ใหญ่