วัดกลางเหนือ ตั้งอยู่ที่บ้านกลางใต้ หมู่ที่ 2 ตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
วัดกลางเหนือ เป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา ปรากฏหลักฐานว่าตั้งเป็นวัดเมือ พ.ศ. 2303 อายุถึงปัจจุบัน 244 ปี (พ.ศ. 2547) ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้าง มีหลักฐานในพระราชพงศาวดารพระเจ้ากรุงธนบุรี กล่าวว่า “หลวงยกกระบัตร" (สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก) ได้ล่องเรือจากราชบุรีมาตามลำน้ำแม่กลองผ่านวัดกลาง...” คือวัดกลางเหนือ ส่วนวัดกลางใต้ซึ่งอยู่ถัดลงไปนั้น ปัจจุบันได้ร้างไปแล้วและเป็นธรณีสงฆ์ของวัดกลางเหนือ วัดนี้เป็นแหล่งศึกษามาแต่โบราณ มีพระเป็นครูสอน ทำการสอนทั้งหนังสือ และวิชาการอย่างอื่น เรียนกันตัวต่อตัว ต่อมาได้สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมขึ้น และสร้างโรงเรียนวิชาภาษาไทยขึ้นในสมัยพระครูสกลวิสุทธิ (เหมือน รตฺนสุวณฺโณ) เป็นเจ้าอาวาส ท่านได้รับเอาการศึกษาแผนใหม่ฝ่ายธรรมมาจัดการสอนแทน การศึกษาแผนเก่าก็เลิกไป เป็นวัดที่ 2 ในอำเภอบางคนที ที่จัดการเรียนการสอนปริยัติธรรมแผนใหม่ โดยจ้างครูเป็นพระบ้าง ฆราวาสบ้าง มาสอน ปีละ 4 เดือน นับแต่เข้าพรรษาไปจนถึงเดือน 12 ส่วนภาษาบาลีนั้น มิได้จัดตั้งขึ้น แต่ก็ได้ส่งพระเณรที่สนใจไปเรียนที่ กรุงเทพมหานคร การศึกษาหนังสือไทยนั้น พระครูสกลวิสุทธิ์ได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะตระหนักดีกว่า ผู้ที่จะศึกษาทางศาสนาได้ดีนั้น ต้องรู้หนังสือไทยมาดีแล้ว จึงได้จัดตั้งโรงเรียนภาษาไทยขึ้นเป็นแห่งแรกในอำเภอบางคนที เมื่อ พ.ศ. 2456 เป็นอาคารไม้ 4 หลัง ใต้ถุนสูง นับว่าเป็นอาคารประวัติศาสตร์การศึกษาของอำเภอบางคนที เปิดป้ายชื่อโรงเรียน เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2458 โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส และทรงประทานชื่อให้ว่า “โรงเรียนตัวอย่างวัดกลางเหนือ อำเภอบางคนที” แล้วยังทรงพระกรุณาแระทานเงินส่วนพระองค์เข้าร่วมด้วย 56 บาท เท่าพระชนมายุของพระองค์ นับเป็นเกียรติแก่โรงเรียนอย่างสูงสุด และเป็นบุญหนักหนาของเยาวชนไทยในแถวถิ่นนี้ได้มีการศึกษาเล้าเรียนโรงเรียนหลังนี้ คือ โรงเรียนสกลวิสุทธิ์ ปัจจุบันนี้
ในปี พ.ศ. 2458 นั่นเอง ทางราชการรับเป็นโรงเรียนของรัฐขยายการศึกษาเปิดสอนตั้งแต่ประถมปีที่ 1 - 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 ต่อมา พ.ศ. 2481 ทางราชการได้ตัดชั้นประถมศึกษาออกทั้งหมด คงไว้แต่มัธยมศึกษา และขยายออกไปจนถึงมัธยมบริบูรณ์ ปัจจุบันโรงเรียนสกลวิสุทธิ์เปิดสอนแผนกอาชีวศึกษาด้วย
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จวัดกลางเหนือ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 มีบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่า “ถึงวัดกลางเหนือ เรือเทียบท่า พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา รับเสด็จประมาณ 16 รูป มีเจ้าอธิการเหมือนเจ้าอาวาสเป็นหัวหน้า และมีข้าราชการ ราษฎร เด็กนักเรียน คอยรับเสด็จประมาณ 200 เศษ เสด็จขึ้นทรงฟังพระสงฆ์สวดชยันโตถวายชัยมงคลจบแล้ว หลวงชำนาญวรวัจน์ ธรรมการมณพลราชบุรี ได้อ่านรายงานการสร้างโรงเรียนในนามของเจ้าอธิการเหมือน และอุบาสกอุบาสิกา ผู้มีศรัทธาบริจาคทรัพย์สร้างขึ้น กราบทูลขอให้ทรงเปิดคลุมป้ายนามโรงเรียน เพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก้โรงเรียน และกุลบุตรที่เล่าเรียนศึกษาต่อไป ได้มีพระราชดำรัสตอบ ทรงแสดงความพอพระทัยในการที่เจ้าอธิการเหมือนเป็นผู้มีจิตใจเผื่อแผ่ความดี ความเจริญแก่ราษฎร ถึงได้จัดสร้างโรงเรียนขึ้น เพื่อให้กุลบุตรได้เล่าเรียนศึกษาทรงอนุโมทนาด้วย แล้วทรงอธิบายถึงประโยชน์แห่งการศึกษาว่ามีมากเพียงไร...”
วัดกลางเหนือเป็นวัดโบราณ ได้มีการปฏิสังขรณ์ซ่อมแซม และสร้างใหม่ตลอดมาด้วยความสามารถของเจ้าอาวาส และพุทธศาสนิกชนให้ความร่วมมือ บริจาคสินทรัพย์เป็นจำนวนมากทำให้วัดกลางเหนือมีศาสนสถาน และศาสนวัตถุที่มั่นคงถาวร ตั้งแต่อุโบสถ ศาลาการเปรียญทรงไทย กุฏิสงฆ์ทรงไทย และสมัยใหม่ ศาลาท่าน้ำ หอฉัน ตลอดจนอาคารเรียน ฯลฯ
สิ่งสำคัญของวัด ที่ควรชม และนมัสการ ได้แก่
1. อุโบสถสร้างใหม่ ก่ออิฐถือปูน งดงามมาก ผนังอุโบสถเป็นรูปเทพนม เรื่องรามเกียรติ์ เหนือผนังอุโบสถสร้างเป็นวิมาน ในวิมานประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ วิมาน และ 1 องค์ รวมทั้งสิ้น 33 องค์