ถ้ำสิงขรเป็นถ้ำภูเขาหินปูนลูกโดด เรียกว่า เขาสิงขร อยู่ห่างจากแม่น้ำพุมดวงไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๑๐๐ เมตร ปากถ้ำสูงจากพื้นดิน ๓ เมตร หน้าถ้ำซึ่งเป็นที่ตั้งวัด มีเจดีย์รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลศิลปะสมัยศรีวิชัย ๑ องค์ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ประดับตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชามทั่วทั้งองค์ คงสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย เรือนธาตุเจดีย์มีซุ้มสี่ทิศ(ซุ้มจาระนำ)ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประธานอภัยภายในประดิษฐานพระพุทธรูปจำลอง หลักฐานที่พบแสดงถึงการใช้ถ้ำในแต่ละยุคสมัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มีการใช้ถ้ำเป็นที่อยู่อาศัย และในสมัยหลังตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายใช้ถ้ำเป็นพุทธสถานมีการตกแต่งประดับด้วยศิลปกรรมแบบอยุธยา ได้แก่ ลายปูนปั้นรูปก้านขดพันธุ์พฤกษา งานศิลปกรรมส่วนใหญ่ได้รับการบูรณะสร้างซ่อมแซมในราวรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการนำชามลายครามและเบญจรงค์มาประดับติดเป็นดาวเพดาน ภาพอาคารปราสาทแสดงลักษณะสถาปัตยกรรมอิทธิพลจีนตามแบบนิยมในจิตรกรรมสมัยนั้นส่วนอักขระข้อความบรรยายเรื่องนรกบนฝาผนัง มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับบางตอนในพระมาลัยกลอนสวด
ที่เขียนขึ้นในรัชกาลที่ ๓
ถ้ำสิงขรเป็นถ้ำภูเขาหินปูนลูกโดด เรียกว่า เขาสิงขร อยู่ห่างจากแม่น้ำพุมดวงไปทางทิศตะวันตก
ประมาณ ๑๐๐ เมตร ปากถ้ำสูงจากพื้นดิน ๓ เมตร หน้าถ้ำซึ่งเป็นที่ตั้งวัด มีเจดีย์รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลศิลปะสมัยศรีวิชัย ๑ องค์ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน ประดับตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยชามทั่วทั้งองค์ คงสร้างขึ้น
สมัยอยุธยาตอนปลาย เรือนธาตุเจดีย์มีซุ้มสี่ทิศ(ซุ้มจาระนำ)ประดิษฐานพระพุทธรูปยืนปางประธานอภัย
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปจำลอง
หลักฐานที่พบแสดงถึงการใช้ถ้ำในแต่ละยุคสมัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์มีการใช้ถ้ำเป็นที่อยู่
อาศัย และในสมัยหลังตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายใช้ถ้ำเป็นพุทธสถานมีการตกแต่งประดับด้วยศิลปกรรม
แบบอยุธยา ได้แก่ ลายปูนปั้นรูปก้านขดพันธุ์พฤกษา งานศิลปกรรมส่วนใหญ่ได้รับการบูรณะสร้างซ่อมแซม
ในราวรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการนำชามลายครามและเบญจรงค์มาประดับติดเป็น
ดาวเพดาน ภาพอาคารปราสาทแสดงลักษณะสถาปัตยกรรมอิทธิพลจีนตามแบบนิยมในจิตรกรรมสมัยนั้น
ส่วนอักขระข้อความบรรยายเรื่องนรกบนฝาผนัง มีเนื้อหาคล้ายคลึงกับบางตอนในพระมาลัยกลอนสวด
ที่เขียนขึ้นในรัชกาลที่ ๓