พื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลบางขวัญ เป็นที่ราบลุ่ม เหมาะกับการทำนา ประชาชนในตำบลบางขวัญ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา เป็นอาชีพหลัก มาตั้งแต่อดีต โดยได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาด้านการทำนาจากบรรพบุรุษ รุ่น สู่รุ่น มาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อสมัยอดีตการทำนาของชุมชนตำบลบางขวัญ ต้องอาศัยจากน้ำธรรมชาติ คือประมาณเดือน ๖-๗-๘ จะมีฝนตกตามฤดูกาล ชาวนาก็จะเริ่มไถนา การไถนาสมัยก่อนก็ต้องอาศัยกำลังของ
วัว –ควาย การไถนาของประชาชนในตำบลบางขวัญ มีสองประเภท คือการไถดะ และการไถแปร
การไถดะ คือการไถครั้งแรกเพื่อทำการพลิกพื้นดินขึ้นมาตากแดด และทำให้วัชพืชตาย ทำให้ดินร่วนซุย
การไถแปร คือการไถตามรอยขวาง ก่อนไถจะหว่านข้าวลงไปก่อน แล้วจึงไถกลบต่อจากนั้นก็จะรอฝน ถ้าฝนตกจนดินเปียก เมล็ดข้าวก็จะงอก ไม่มีการฉีดยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง ไม่มีการใส่ปุ๋ย ปล่อยตามธรรมชาติ พอถึงเดือนอ้าย เดือนยี่ น้ำลดแห้ง ข้าวก็เริ่มแก่ จะทำการเกี่ยวข้าว
การทำนาดำ เป็นการทำนาที่ชาวตำบลบางขวัญนิยมทำกันในเวลาต่อมา การทำนาดำนี้ ชาวนาจะต้องเตรียมแปลงนา ให้เป็นแปลงที่ทำการหว่านต้นกล้า (หว่านพันธ์ข้าวแบบหนา ๆ) และจะต้องดูแลแปลงต้นกล้าเป็นพิเศษ แปลงต้นกล้าจะต้องมีน้ำพอประมาณ จะปล่อยแห้งเหมือนนาหว่านไม่ได้ เพราะต้นกล้าจะตาย เมื่อต้นกล้าโตพอประมาณ ก็จะถอนต้นกล้า นำไปปลูก ในแปลงนาที่เตรียมไว้ โดยแยกต้นกล้าออกเป็นกอ ๆ ละ ประมาณ ๒ –๓ ต้น ปักดำลงในแปลงนาที่เตรียม ซึ่งต้องมีน้ำพอประมาณ การดำนาจะใช้แรงงานคน
การเกี่ยวข้าว ในสมัยแต่เดิม จะใช้วิธีการเอาแรงกัน และลงแขก ไม่ต้องจ้าง ปีหนึ่ง ทำครั้งเดียว ต่อมากรมชลประทานได้มาขุดคลองส่งน้ำ ทำให้ประชาชนมีน้ำใช้เพื่อการทำได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ จึงทำนาได้ ๒ ครั้ง เครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนาก็เปลี่ยนไป จากแต่เดิมใช้ วัว –ควายไถนา ก็ใช้รถแทรกเตอร์ไถนาแทน และจากที่ใช้คนเกี่ยวข้าว ก็ใช้รถเกี่ยวข้าวแทน และมีการใช้สารเคมีช่วยให้ผลผลิตข้าวมากกว่าเดิม เช่น ใช้ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงศัตรูพืช และมีการใส่ปุ๋ยในนาข้าว พันธ์ข้าวก็เปลี่ยนไป เปลี่ยนมาเป็นพันธ์ กข ทำให้ผลผลิตที่ได้เพิ่มมากกว่าเดิม คือไร่หนึ่งจะได้ประมาณ ๘๐-๑๐๐ ถัง
การนวดข้าว เมื่อเกี่ยวข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชาวนาจะต้องเตรียมลานนวดข้าว โดยต้องฉีดน้ำ ทุบดินให้แน่น และยาลาน เพื่อไม่ให้ดินที่ลานนวดข้าวแตกระแหง จึงต้องยาลานเพื่อป้องกันเม็ดข้าวตกลงไปในลอยแตกของดิน การนวดข้าวแต่เดิมใช้ วัว –ควาย ย่ำข้าว ให้เม็ดข้าวหล่นจากซังข้าว ต่อมามีการใช้รถลากลูกถองนวดข้าวแทน และในปัจจุบันใช้รถเกี่ยวจากต้นข้าวในท้องนาได้เลย
การขายข้าว จะมีพ่อค้าคนกลางไปรับซื้อข้าว แต่เดิมชาวนาจะแบ่งข้าวไว้สีรับประทานเอง และแบ่งเก็บไว้เป็นพันธ์ข้าว โดยต้องตากข้าวที่เก็บไว้ทำพันธุ์ให้แห้ง และขนขึ้นยุ้งฉางไว้ แต่ปัจจุบันชาวนาจะไม่เก็บไว้สีรับประทานเอง จะขายข้าวหมดเลย และซื้อข้าวสารจากตลาดมารับประทาน
ปัจจุบัน ชุมชนตำบลบางขวัญส่วนใหญ่ก็ยังประกอบอาชีพทำนา ซึ่งได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษ แต่รูปแบบหรือวิธีการทำนามีการพัฒนา ปรับปรุงไปจากเดิมบ้าง เช่นมีการใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาช่วย และการถ่ายทอดภูมิปัญญาปัจจุบัน นอกจากการได้รับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษแล้ว ยังมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง มีการจัดอบรมให้ความรู้ ทั้งด้านการจัดอบรม การจัดทำเอกสารเผยแพร่ความรู้ และมีนายสมจิตร์ จินดาพันธ์ ประชาชนในตำบลบางขวัญ เป็นภูมิปัญญาถ่ายทอดความรู้ด้านการทำนาให้ประชาชนในตำบลที่สนใจโดยทั่วไป