ลิ้นจี่อัมพวา
ลิ้นจี่เป็นไม้ยืนต้น จัดอยู่ในตระกูลSapindaceaeเป็นไม้กึ่งเมืองหนาว เป็นพืชตระกูลใหญ่ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าlitchi chinensisและมีชื่อสามัญว่า litchi มีหลักฐานยืนยันได้ว่าสมุทรสงคราม เป็นลิ้นจี่ที่มาจากเมืองจีน โดยพ่อค้าชาว
จีนได้นำผลลิ้นจี่เข้ามาขายหรือนำมาฝากญาติพี่น้อง ชาวจีนด้วยกันที่อาศัยอยู่ตามลุ่มแม่น้ำแม่กลองและแควอ้อมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งในขณะนั้นแม่กลองเป็นเมืองหนึ่งที่ขึ้นอยู่มณฑลราชบุรี หรือที่ทำการของมณฑลราชบุรีในสมัยนั้น ลิ้นจี่ที่ปลูกครั้งแรกพบว่ามีการปลูกกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2340 ที่ตำบลบางสะแก อำเภอบางคนที
และที่ตำบลเหมืองใหม่ อำเภออัมพวา และยังคงมีต้นลิ้นจี่ที่มีอายุถึง 200 ปี ให้เห็นในทุกวันนี้ รวมพื้นที่เพาะปลูกลิ้นจี่ทั้งสิ้น ประมาณ 5,380 ไร่
พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากจนทำชื่อให้กับจังหวัดสมุทรสงคราม คือพันธุ์ค่อมลำเจียกแต่ก็ยังมีพันธุ์อื่นๆ ด้วย เช่น กะโหลก ใบยาว จีน ไทย สำเภาแก้ว และสาแหรกทอง
เป็นเวลากว่าร้อยปีที่ชาวสานลิ้นจี่แม่กลองสามารถพัฒนาสายพันธุ์สีส้ม รสชาติ จนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสร้างความโดดเด่นของตนเอง โดยเป็นความโดดเด่นในแง่ของรสชาติของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมผู้เป็นราชินีแห่งลิ้นจี่เมืองแม่กลอง เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นในภาคกลางและภาคเหนือ นอกจากนี้ โดยที่ลักษณะของต้นลิ้นจี่ของจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่ค่อยสูง เป็นพุ่มแจ้ให้ผลดก จึงได้ชื่อว่าค่อมหรืออีค่อม
ลักษณะเด่นของลิ้นจี่พันธุ์ค่อมสมุทรสงคราม
1.ผลลิ้นจี่จะมีสีแดงสดค่อนข้างกลม มีลักษณะบ่าสูง
2.หนามตั้งเมื่อผลลิ้นจี่แก่จัดได้ที่ หนามลิ้นจี่จะไม่แหลมสูง แต่จะมีลักษณะราบลงและอยู่ห่างกันไม่เป็นกระจุก
3.หนังตึงลิ้นจี่ที่แก่จัดได้ที่จะมีสีแดงสด (เข้มเหมือนสีน้ำหมาก) ค่อนข้างกลมไหล่ผลจะสูงลักษณะขอบเปลือกบางตึง
4.เนื้อเต่งเนื้อลิ้นจี่จะมีสีขาวขุ่น เนื้อหนากรอบ เนื้อแห้งไม่แฉะ มีกลิ่นหอม รสหวาน
5.ร่องชาดคำนี้เป็นภาษาของชาวสวนหมายถึง สีของเปลือกด้านในของลิ้นจี่เมื่อปลอกเปลือกออกแล้วจะเป็นเห็นเป็นสีชมพูตั้งแต่ขั้วผลจนถึงกลางผลจะเป็นลิ้นจี่ค่อมที่มีรสชาติอร่อยที่สุด แต่ถ้าเปลือกด้านในเป็นสีชมพูทั้งผลสีแดงว่าลิ้นจี่นั้นแก่จัดเกินไป รสชาติจะอร่อยน้อยลง
ทั้งนี้ลิ้นจี่สมุทรสงครามเมื่อจัดได้ที่ จะมีสีเข้มเกือบดำ ซึ่งเป็นไปโดยธรรมชาติของผลไม้ไม่ใช่เป็นลิ้นจี่ ที่ใกล้จะเน่าเสียแต่อย่างใด ดังนั้นหากผู้บริโภคเห็นว่าลิ้นจี่สมุทรสงคราม มีสีเข้มเกือบดำ โปรดอย่าเข้าใจว่าเป็นของเก่าหรือใกล้จะเน่าเสีย เพราะถึงแม้เปลือกของลิ้นจี่จะมีสีเกือบดำแต่ก็ยังรับประทานได้และมีรสชาติหวานอร่อย
วิธีเก็บรักษาลิ้นจี่
เมื่อซื้อลิ้นจี่มาแล้ว ให้เก็บไว้ในที่ชื้น โดยไม่ต้องมัดปากถุง เพื่อให้น้ำในถุงระเหยได้ไม่ทำให้ผลลิ้นจี่เน่า แต่หากวางลิ้นจี่ไว้ในอุณหภูมิห้อง ลิ้นจี่ถูกลมแสงประมาณ 2 ช.ม. สีผิวจะเปลี่ยนเป็นดำแห้งแต่รสชาติจะยังหวานอร่อยเหมือนเดิมและถ้าเก็บรักษาในตู้เย็นสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นสัปดาห์ แต่รสชาติความหวานจะลดน้อยลง
รวบรวมและเรียบเรียงโดย:
นางสาวพรทิพย์ ไชยา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ
ผู้ประสานงานอำเภออัมพวา
นางสาวสุภาภรณ์ นาคเกตุ เจ้าพนักงานธุรการ