ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
Latitude : N 14° 26' 6.9716"
14.4352699
Longitude : E 99° 30' 0.8975"
99.5002493
No. : 154074
เฮี้ยนผีขึ้นเฮือน
Proposed by. ball_aroon Date 29 August 2012
Approved by. กาญจนบุรี Date 26 September 2012
Province : Kanchanaburi
0 1049
Description

พิธี เชิญผีขึ้นเรือน หรือเรียกเป็นภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์ไททรงดำ เรียกว่า เฮี้ยนผีขึ้นเฮือนเป็นอีกพิธีหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ และจำเป็นต่อการดำรงชีวีตของชาวไททรงดำมาแต่โบราณเพราะนอกจากจะแสดงถึงความกตัญญู ต่อบิดามารดาและญาติผู้ใหญ่อาทิ ปู่ ย่า ตา ยาย แล้ว ยังเป็นพิธีที่กระทำขึ้นเพื่อความเป็นศิริมงคล แก่คนในครอบครัวของผู้ตายอีกด้วย และแม้ปัจจุบัน จะจัดงานศพตามแบบไทยทั่วไปบ้างแล้วก็ตาม ทว่า เมื่อบิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวตายลง ก็จะต้องกระทำตามประเพณีของไททรงดำอย่างเคร่งครัด ด้วยการเชิญหมอเสนมาเป็นผู้ประกอบพิธี โดยเริ่มตั้งแต่การเอาผีลงเรือน และการเอาผีขึ้นเรือน เป็นต้น

การเอาผีลงเรือนตามประเพณีของไททรงดำ หากผู้ตายถึงแก่กรรมภายในบ้านเรือนและตั้งศพไว้ในบ้านก่อน จะเคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธีต่อที่วัดนั้น เจ้าภาพจะต้องเชิญหมอเสนที่มาทำพิธีเรียกขวัญ หรือเรียกตามภาษาลาวโซ่งว่า"ช้อนขวัญ" คนในบ้านก่อน ด้วยเชื่อว่าสมาชิกในครอบครัวที่มีคนตายในบ้านจะโศกเศร้า หรือตกใจจนขวัญหาย จึงต้องเรียกขวัญไว้ให้อยู่กับตัว ไม่ติดตามผู้ตายไปที่อื่น

การช้อนขวัญจะเริ่มด้วยหมอเสนถือสวิงสำหรับช้อนกุ้งหรือปลาเดินนำหน้าขบวน และทำท่าช้อนกุ้งหรือปลาไปรอบ ๆ บริเวณที่ตั้งโลงศพของผู้ตาย ตามด้วยเจ้าภาพซึ่งเป็นเจ้าบ้านเดินถือเสื้อผ้าของคนในบ้าน ๑ ชุด และญาติพี่น้องบุตรหลานทั้งหมดเดินตามหลังอีกทอดหนึ่ง หากญาติในครอบครัวคนใดคนหนึ่งไม่อาจร่วมพิธีได้ ให้หักเศษไม้เป็นรูปตะขอเล็ก ๆ ฝากใส่ไว้ในสวิงที่หมอเสนถือเป็นเครื่องหมายแทนตัวด้วย เมื่อหมอเสนและญาติ ๆ เดินวนรอบโลงศพผู้ตายครบ ๓ รอบแล้ว จะต้องเข้าไปในห้องผีเรือน เพื่อไหว้ผีเรือนให้ช่วยคุ้มครองอันตราย หรือเคราะห์ร้ายทั้งปวงให้หมดไปจากตัว และให้ขวัญของแต่ละคนกลับมาอยู่กับตนเองอย่างปลอดภัยโดยไม่ตกหล่นสูญหายหรือติดตามผู้ตายไปที่ใดทั้งสิ้นหลังจากทำพิธีเรียกขวัญหรือช้อนขวัญ ของคนเป็นซึ่งเป็นญาติผู้ตายเรียบร้อยแล้ว จึงจะทำพิธีเคลื่อนย้ายหรือยกโลงศพลงจากเรือนไปประกอบพิธีที่วัดได้ โดยอาจจัดขบวนแห่ให้สวยงามเป็นเกียรติแก่ผู้ตายด้วยการจัดตบแต่งด้วยธง หรือขบวนตามธรรมเนียมของลาวโซ่งอย่างเคร่งครัด

การเอาผีขึ้นเรือนการเอาผีขึ้นเรือนของไททรงดำจะจัดทำเมื่อบิดามารดา หรือญาติผู้ใหญ่ในบ้านตายเท่านั้น เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการแสดงความกตัญญูต่อผู้ตายมิให้วิญญาณของผู้ตายต้องร่อนเร่ แต่จะต้องเชื้อเชิญวิญญาณผู้ตายให้เข้าไปอยู่ร่วมกับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้วทั้งหมดในห้องผีเรือนที่เรียกว่า"กะล่อห่อง" เพื่อจะได้คุ้มครองบุตรหลานทุกคน

หมอเสนจะเป็นผู้กำหนดวันเอาผีขึ้นเรือน และเตรียมพิธีหลังจากเผาศพผู้ตายเรียบร้อยแล้ววันรุ่งขึ้น หมอเสนจะเก็บอัฐิของผู้ตายบรรจุโกศส่วนหนึ่ง เพื่อให้บุตรหลานนำไปบูชา ณ ห้องผีเรือน ส่วนอัฐิที่เหลือจะใส่ไหนำไปฝังยังสถานที่ที่เตรียมไว้ในป่าช้า และนำบ้านหลังเล็ก ๆ ทำด้วยตอกไม้ไผ่เรียกว่า "หอแก้ว" มาปลูกคร่อมบนบริเวณที่ฝังไหอัฐิไว้ หากผู้ตายเป็นชายกล่าวคือ บิดา ปู่ ตา จะตบแต่งหอแก้วให้สวยงามด้วยธงไม้ไผ่สูงประมาณ 5 วา เรียกว่า"ลำกาว"พร้อมทั้งนำผ้าดิบสีขาวขลิบรอบ ๆ ขอบผ้าด้วยผ้าสีต่าง ๆ สลับกัน ๓ สีคือ แดง เหลือง ดำ ผูกติดกับยอดไม้ไผ่ให้มีความยาวพอเหมาะกับลำกาว ปลายยอดลำกาว หรือปลายไม้ไผ่ จะติดรูปหงส์ตัวเล็ก ๆ ทำด้วยไม้งิ้วแกะสลักอย่างงดงาม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพาหนะพาผู้ตายกลัยไปเมืองแถน หลังจากนั้นจะนำอาหารเช้ามาเซ่นไหว้ผู้ตายจนครบ 3 วัน เมื่อครบกำหนด 3 วันแล้วหมอเสนจะรื้อหอแก้วกับลำกาวทิ้งทั้งหมด ด้วยเชื่อว่าจะได้ไม่มีการตายเกิดขึ้นในครอบครัวนี้อีกและนัดแนะกำหนดวันเอาผีขึ้นเรือนตามความพร้อมของเจ้าภาพ

เมื่อถึงกำหนดวันเอาผีขึ้นเรือน หมอเสนจะเป็นผู้กล่าวคำเชื้อเชิญวิญญาณของผู้ตายเป็นภาษาไททรงดำ และทำพิธีเซ่นไหว้ในห้องผีเรือนตามประเพณีไททรงดำ โดยทำพิธีคล้ายกับการเสนเรือน ด้วยการจัดเครื่องเซ่นต่าง ๆ อาทิ เนื้อหมูดิบ ซี่โครงหมู ไส้หมู เนื้อหมูยำ ข้าวเหนียวนึ่ง หมากพลู บุหรี่ และเหล้าทั้งขวด บรรจุลงในปานเผือน และเริ่มด้วยหมอเสนจะเรียกพร้อมกับกล่าวเชิญวิญญาณของผู้ตาย ให้มารับอาหารที่จัดเตรียมไว้ก่อน แล้วจึงเชิญบรรพบุรุษ ตามลำดับรายชื่อที่จดไว้ในสมุดผีเรือน ให้มารับอาหาร จนครบหมดทุกชื่อ โดยเรียกชื่อครั้งหนึ่งก็ใช้ตะเกียบคีบอาหาร (หมูยำ) ทิ้งลงในที่จัดเตรียมไว้ทีละชิ้นเช่นกัน ครบแล้วจึงทำพิธีกู้เผือน ซึ่งก็คือการนำอาหารที่เหลือออกจากปานเผือนทั้งหมด เพื่อนำปานเผือนมาใช้เป็นเครื่องมือสู่ขวัญบุตรหลานของผู้ตายต่อไปอนึ่ง หลังจากเสร็จพิธีเอาผีขึ้นเรือนเรียบร้อยแล้ว หมอเสนจำเป็นต้องทำพิธีสู่ขวัญหรือเรียกขวัญญาติพี่น้อง บุตรหลานในครอบครัวของผู้ตายต่อ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ตัวผู้อยู่หลังเนื่องจากเชื่อว่า ขณะมีคนตายในครอบครัว ญาติพี่น้อง บุตรหลานในครอบครัวจะโศกเศร้าและตกใจจนขวัญหายไปจากตัวเอง จึงต้องเรียกขวัญให้กลับมาอยู่กับตัวด้วยการทำพิธีสู่ขวัญหรือเรียกขวัญนั่นเอง และเป็นธรรมเนียมของไททรงดำที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมา กระทั่งเป็นประเพณีประการหนึ่งก็คือ หลังจากพิธีเอาผีขึ้นเรือนและสู่ขวัญ คนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าภาพกับบรรดาญาติพี่น้องจะต้องแสร้งทำเป็นโกรธเกรี้ยว พร้อมกับไล่ตะเพิดหมอเสนให้ออกไปให้พ้นจากบ้านเรือนของตนโดยเร็วไว เพื่อขับไล่ความทุกข์โศกตลอดจนเคราะห์ร้ายต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไปจากครอบครัวของตนพร้อมกับตัวหมอเสนด้วย

การถ่ายทอด/ผู้สืบทอดการสืบทอดจะเป็นลูกผู้ชายที่อยู่ในตระกูลเดียวกันเท่านั้น

การใช้ประโยชน์การดำเนินงานเพื่อสืบสานตามพิธีกรรม เป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้ลูกหลานเห็นถึงพิธีกรรมที่บรรพบุรุษมีการรักษาสืบทอดให้กับคนรุ่นหลัง เป็นกุศโลบาย ก่อให้เกิดความรัก ความผูกพันในครอบครัว ให้ครอบครัวได้มารวมกันเพื่อจัดงาน พิธีกรรม และประเพณี ร่วมกัน

Location
No. ๖๐/๒ Moo
Tambon หลุมรัง Amphoe Bo Phloi Province Kanchanaburi
Details of access
Reference นายอาทิตย์ มูลละออง
Moo
Tambon หลุมรัง Amphoe Bo Phloi Province Kanchanaburi ZIP code 71160
Comment
Please Login Before comment.

Username
Password
No comment.
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่