ประวัติความเป็นมาวัดผึ่งแดด
จากประวัติที่พอจะสืบค้นได้ วัดผึ่งแดดเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง แต่ที่ปรากฏหลักฐานชัดเจน พบว่า วัดผึ่งแดด สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2451 โดยนายเฉย และนางขน สองคนพี่น้อง เป็นผู้บริจาคที่ดินให้ เดิมชื่อว่า "วัดตากแดด" ได้รับวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2458
วัดผึ่งแดด เป็นวัดในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ริมคลองทับน้ำ ทิศเหนือติดกับถนนของหมู่บ้าน และคลองบ้านกลาง ทิศตะวันออกเป็นโรงเรียนวัดผึ่งแดด ถัดออกไปเป็นหมู่บ้าน เรียกว่า "บ้านกลาง" ทิศใต้ติดกับที่ดินของชาวบ้าน และทิศตะวันตกเป็นลำคลองทับน้ำ
วัดผึ่งแดดได้แบ่งที่ดินให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนประถมศึกษา คือโรงเรียนวัดผึ่งแดด เหลือเนื้อที่เป็นบริเวณวัดในปัจจุบันเพียง 7 ไร่ วัดผึ่งแดดเป็นที่บำเพ็ญกุศลและประกอบศาสนกิจของชาวบ้านทับน้ำหมู่ที่ 3 และ หมู่ที่ 4 มีหมู่ที่ 2 บ้าง เล็กน้อย เป็นวัดที่อยู่ในทำเลที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางของหมู่บ้าน มีถนนเชื่อมต่อออกไปยังหมู่บ้านอื่นได้ด้วย จึงทำให้วัดผึ่งแดดเป็นวัดที่มีชื่อเสียงและให้บริการด้านอื่น ๆ อีก เช่น เป็นที่ตั้งของโรงเรียนประถมศึกษา คือโรงเรียนวัดผึ่งแดดซึ่งปัจจุบันเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียนมากพอสมควร เป็นที่ตั้งของที่ทำการ อบต. ทับน้ำ และสถานีอนามัยตำบลทับน้ำ จึงนับว่าเป็นวัดที่ให้บริการชุมชนที่ดีแห่งหนึ่ง
วัดผึ่งแดดจะมีอายุครบ 100 ปี ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ อาคารเสนาสนะเก่าแก่ เช่น ศาลาการเปรียญที่เป็นไม้แม้จะยังพอใช้ประกอบศาสนกิจได้ แต่ก็ทรุดโทรมลงไปมากแล้ว ทางเจ้าอาวาสและพระภิกษุ รวมทั้งศาสนิกชนชาวทับน้ำได้ร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญขึ้นใหม่ แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม วัดผึ่งแดดก็มีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เหมาะสมแก่การประกอบศาสนกิจ คือมีพระอุโบสถ หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ กุฏิ และฌาปนสถาน เป็นต้น
วัดผึ่งแดด เป็นวัดในที่ลุ่ม ริมคลอง มีน้ำท่วมทุกปี และมักจะท่วมอยู่นาน จึงไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่เก่าแก่มากนัก เคยมีต้นตะเคียนด้านเหนือพระอุโบสถซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ หรือปาฏิหาริย์ของต้นตะเคียนดังกล่าว แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าปัจจุบันต้นตะเคียนได้ตายไปแล้วในอดีตเคยมีประเพณีแข่งเรือ ในช่วงเดือนสิบสอง แต่ปัจจุบันคลองทับน้ำมีน้ำน้อยและคับแคบลง แต่ก็มีชาวบ้านได้พยายามจัดแข่งขันเรือพื้นบ้านขึ้นบ้างในบางปีที่มีน้ำมาก
วัดผึ่งแดดเคยมีการสร้างวัตถุมงคล เป็นเหรียญ และพระพิมพ์เนื้อผงรูปหลวงพ่อจีน อดีตเจ้าอาวาส พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัดผึ่งแดด นอกจาก "หลวงพ่อผิน" พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระประธานในพระอุโบสถแล้ว ก็ยังมี "หลวงพ่อแพ" เป็นพระพุทธรูปปางนาคปรก เนื้อหินทรายซึ่งเดิมอยู่นอกพระอุโบสถ แต่ปัจจุบันได้อัญเชิญไปอยู่ในพระอุโบสถแล้ว ชาวบ้านเคารพนับถือกันมาก ส่วนของแก้บนก็มิได้เจาะจงว่า ควรเป็นสิ่งใด
วัดผึ่งแดดได้รับการดูแล ทำนุบำรุงจากเจ้าอาวาส พระภิกษุสามเณร และพุทธศาสนิกชนชาวตำบลทับน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้วัดผึ่งแดดเป็นที่พึ่งที่ดีของชุมชนเสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการศึกษาของเยาวชน ทางวัดผึ่งแดดได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีทั้งด้านสถานที่ งบประมาณ และบุคลากร จึงปรากฏว่า นักเรียนและเยาวชนจากตำบลทับน้ำมีความรู้ความสามารถด้านวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม และการกีฬา ไม่ตำบลอื่น ๆ