การป้นหม้อดินเผา ของบ้านจบก หมู่ที่ ๖ ตำบลสนวน อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ มีมานานแล้วโดยได้รับการสืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย โดยชาวบ้านจบกได้ปั้นหม้อดินเพื่อใช้ในครัวเรือน และจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้าน การปั้นหม้อดินของชาวบ้านจบกนั้นมีขั้นตอนการปั้นที่ได้รับการถ่ายทอดจากคุณยายทองม้วน ชาญรอบรู้ ดังนี้
การปั้นหม้อดิน
๑. ดินที่นำมาใช้ในปั้นหม้อ คือ ดินเหนียวที่หาได้ตามท้องไร่ท้องนา
๒. ดินร่วนและแกลบเผาบด ผสมกันเป็นดินเชื้อ
๓. ย่ำดินเหนียวและดินเชื้อให้เป็นเนื้อเดียวกัน
๔. กระบะหรืออ่าง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการหมักย่ำดิน บางบ้านใช้วิธีขุดดิน ลงไปเป็นแอ่งสี่เหลี่ยมหรือกลมรีลึกพอประมาณ
๕. น้ำ ใช้เป็นตัวประสานระหว่างดินเหนียวกับดินเชื้อให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
๖. แป้นหมุน เครื่องมือชนิดนี้เดิมใช้แรงงานคน เรียกว่า “ แระ ” มาระยะหลังใช้มอเตอร์สายพานแทน
๗. ไม้ตี เป็นอุปกรณ์ที่มีหลายขนาด และใช้ในโอกาสต่างกัน เช่น ไม่ตีแรก จะมีขนาดเหมาะมือ ไม้ตีไม้สองเรียก ไม้ตน ใช้ต่อจากขั้นตอนแรกและไม้ตีไม้สามเรียก ไม้ลายแบน
๘. ลูกหิน ทำมาจากดินเหนียวผสมปูนซีเมนต์เป็นตัวยันเนื้อหม้อดินขณะที่อีกมือหนึ่งจะทำหน้าที่ดีอยู่ด้านนอก
๙. หินขัด หาได้ทั่วไป เป็นหินผิวเรียบทั่วไป เช่น หินอ่อนหรือหินแม่น้ำใช้สำหรับขัดผิวหม้อดินให้เรียบเสมอกัน ก่อนการชุบสี
๑๐. สีดินเหลือง ทำมาจากดินเหนียวสีเหลืองผสมน้ำ คนจนเนื้อดินและโคลนจะได้น้ำดินสีเหลืองจะนำมาใช้เป็นสีทาผิวหม้อดินที่ผ่านการขัดมาแล้ว
ขั้นตอนการทำ
๑. ย่ำดิน โดยขั้นแรกจะนำดินที่เป็นก้อนมาแช่น้ำหมักไว้ราว ๑-๒ วัน แล้วนำดินที่ได้มาใส่กระบะที่เตรียมไว้ พร้อมกับผสม ดินเหนียว ๒ ส่วน ดินเชื้อ 1 ส่วน และน้ำพอประมาณ
๒. เริ่มทำการย่ำดิน ย่ำจนมั่นใจว่าเข้ากันเป็นเนื้อเดียวอย่างพอดี จึงตักดินขึ้นมาห่อไว้ด้วยผ้าชุบน้ำ
๓. ปั้นหม้อ คนปั้นหม้อจะตักดินมาวางบนแป้นหมุนโดยกะประมาณเอาเองว่าจะปั้นหม้อครั้งละจำนวนเท่าใด ดินที่ถูกตักขึ้นมาโปะบนแป้นจะได้รับการจัดแต่งลักษณะพอกเป็นเนิน เปิดสวิตช์ ใช้ผ้าชุบน้ำคอยหล่อลื่นใช้มือกดลงตรงกลางจนได้ขนาดความหนาและความสูงตามต้องการ จากนั้น นำผ้าชุบน้ำ “ รีหม้อ ” ให้ได้ส่วนโค้งเว้าเมื่อพอใจแล้วจึงใช้ด้ายตัดดินตรงฐานหม้อ ถือเป็นการปั้นหม้อเสร็จหนึ่งใบ
๔. เรียงตาก หม้อที่ได้จากการปั้นจะถูกลำเลียงมาวางบนแผ่นกระดานไม้อย่างเป็นระเบียบก่อนนำไปตาก สามารถตากได้ทั้งแดดและลม และใช้เวลา ๔-๕ ชั่วโมงก็ใช้ได้ หากไม่มีแดดก็ใช้ตากลมประมาณ 1 คืนก็ใช้ได้
๕. ทาสีหม้อ นำหม้อที่ผ่านการตบแต่งเรียบร้อยแล้วมาทาสี โดยใช้ผ้าชุบโคลนสีเหลือง หรือที่เรียกว่า “ ดินเหลือง ” ตากไว้ ๑ คืน
๗. เผาหม้อดิน ชาวบ้านจบก ยังคงใช้วิธีการเผาหม้อดินแบบโบราณอยู่เรียกว่า “ เผาเตาสุม ” โดยเตาเผาจะได้รับการก่อขึ้นเป็นทรงสูงเหนือพื้นดินส่วนด้านล่างของเตาจะขุดดินลงไปให้ลึกพอประมาณ เพื่อใสฟืนกระถินซึ่งเป็นเชื้อเพลิงพื้นบ้าน การเผาจะใช้เวลาชั่วข้ามคืนแล้วจึงเปิดเตาในช่วงเช้า ถึงขั้นตอนนี้ระหว่างที่หม้อถูกลำเลียงออกจากเตาเผา หากใบไหนร้าวหรือมีตำหนิมากเกินไปก็จะทุบทิ้ง จะไม่ยอมจำหน่ายออกไปเพราะจะทำให้เสียชื่อ “ หม้อดินเผาบ้านจบก ”