พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) ถึงแม้ว่าท่านจะไม่ได้เป็นชาวกาญจนบุรีโดยกำเนิดแต่ท่านก็มีภรรยาเป็นชาวกาญจนบุรี และได้ทำคุณประโยชน์ให้กับชาวกาญจนบุรี สมควรได้รับการเคารพยกย่องและสมควรเป็นตัวอย่างที่ดี พระยาพหลฯ เป็นบุตรคนที่ ๕ ของพันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา(กิม พหลโยธิน) และคุณหญิงจีบ เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๐ ที่บ้านหน้าวัดราชบูรณะ (วัดเลียบ) กรุงเทพฯ เมื่ออายุได้ ๑๒ ปีได้ขึ้นทะเบียนเป็นนายร้อยทหารบกด้วยเป็นผู้ที่เรียนเก่งจนกระทั่งในปี พ.ศ.๒๔๔๗ สอบชิงทุนหลวงไปศึกษาต่อวิชาทหารที่ประเทศเยอรมัน ด้วยอายุเพียง ๑๖ ปี ในปี พ.ศ.๒๔๕๕ ได้ไปศึกษาต่อวิชาช่างแสงที่ประเทศเดนมาร์ก ประมาณ ๑ ปี จากนั้นจึงได้กลับมาประจำกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๔ ที่จังหวัดราชบุรี ในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสรายุทธสรสิทธิ์ ผู้บังคับกรมทหารปืนใหญ่ที่ ๙ จังหวัดฉะเชิงเทรา ต่อมา พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้เลื่อนยศเป็นพันตรี ดำรงตำแหน่งกรมจเรทหารปืนใหญ่ในกระทรวงกลาโหม และไปดูงานกิจการทหารกองทัพบกที่ประเทศญี่ปุ่น พลเอกพระยาพหลพลพยุหเสนาได้มาพำนักอยู่ที่กาญจนบุรีเป็นประจำ เมื่อตอนที่ท่านดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าคณะราษฎร์ก็ได้ชักชวนคณะของท่านมาร่วมสร้างพระอุโบสถวัดเทวสัฆาราม จากการที่ท่านใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานและเห็นว่าเมืองนี้มีป่าไผ่มาก เหมาะที่จะนำมาเป็นวัสดุในการทำกระดาษ ท่านจึงได้ริเริ่มจัดตั้งโรงงานกระดาษแห่งที่ ๒ ในประเทศไทย ซึ่งโรงงานกระดาษแห่งแรกตั้งอยู่ที่สามเสน เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งคุณงามความดี กระทรวงมหาดไทยโดยมติของคณะรัฐมนตรีจึงสร้างโรงพยาบาลและอนุสาวรีย์ที่ถนนแสงชูโต ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง โดยใช้ชื่อว่า โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ซึ่งก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ.๒๔๙๖ เป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลเป็นรูปยืนหล่อด้วยสัมฤทธิ์ สูง ๑.๗๕ เมตร