ประวัติชีวิต
-ปัจจุบันอายุ ๖๒ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๑ จังหวัดสุรินทร์
ประวัติการศึกษา
- จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ จังหวัดสุรินทร์
- โรงเรียนเพาะช่าง ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔
- โรงเรียนช่างศิลป์ เรียนได้ ๑ ปี ก็ลาออก มาทำงานหนังสือพิมพ์
ประวัติการทำงาน
- เริ่มทำงานหนังสือพิมพ์อยู่นาน ๔ ปี เขียนหนังสือ เขียนรูปภาพประกอบ เขียนเรื่องสั้น บทกวี
มีเรื่องสั้นเรื่องแรกลงหนังสือพิมพ์ไทย
- เป็นสมาชิกกลุ่มหนุ่มเหน้าสาวสวยของมหาวิทยาลัยศิลปากร
- เคยเขียนบทกวีลงในชัยพฤกษ์สมัยอาจารย์เปลื้อง ณ นคร เป็นบรรณาธิการ
- เล่นดนตรี มีชื่อว่า “คาราวาน” ตระเวนแสดงในงานกิจกรรมของนักศึกษาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสังคม
ภายหลัง “คาราวาน” จึงได้ชื่อว่าเป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตต้นแบบของไทย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างดี
ในนาม “หงา คาราวาน”
- ยังคงแต่งเรื่องสั้น นวนิยาย กวีนิพนธ์และเพลง
แม้จะไม่เคยเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่ร่วมกิจกรรมภาคศิลปะทางปัญญาและทางสังคมกับนักคิด นักเขียนในมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด มีพื้นฐาน เป็นคนอ่านหนังสือมากเพราะพ่อเป็นครู จึงได้อ่านงานเขียนของ มาลัย ชูพินิจ ลาว คำหอม มนัส จรรยงค์ ร. จันทะพิมพะ งานแปลของสไตน์เบ็ค ตลอดจนเรื่องดอกเตอร์ชิวาโก ของบอริส ปาสเตอร์แน็ค จากหนังสือในบ้าน เมื่อมาใช้ชีวิตเร่ร่อนในกรุงเทพฯ ก็อ่านหนังสือโดยตลอด ทำให้หาเงินจากการเขียนหนังสือ เขียนบทกวี ได้ตั้งแต่ยังนุ่งกางเกงขาสั้น เคยมีงานเขียนเรื่องสั้นลงในสยามรัฐรายสัปดาห์สมัยที่คุณประมูล อุณหธูป เป็นบรรณาธิการ ถึง ๒ เรื่อง
พร้อมกันในเล่มเดียว คือ เรื่อง “แล้งเข็ญ” และ เรื่อง “คนและคนบ้า” มีบทกวีลงในชัยพฤกษ์
สมัยอาจารย์เปลื้อง ณ นคร เป็นบรรณาธิการ
นายสุรชัย จันทิมาธร เป็นทั้งนักเขียน กวี และคีตศิลปิน มีผลงานเขียนทั้งเรื่องสั้น บทกวี
นวนิยาย และบทเพลงเพื่อชีวิตของวงคาราวาน ผลงานดังกล่าวแสดงถึงความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทั้งด้านเนื้อหา รูปแบบ และกลวิธีการนำเสนอ ใช้ถ้อยคำเรียบง่ายแต่มีวรรณศิลป์ ความโดดเด่นอย่างยิ่งคือการสะท้อนภาพสังคมของผู้ยากไร้ทั้งในเมืองและชนบท แม้จะเป็นงานเขียนเชิงอัตวิสัยที่เล่าผ่านประสบการณ์ทางอารมณ์และความคิดของผู้ประพันธ์ แต่เป็นงานเขียนที่มีพลังทางปัญญาและพลังทางอารมณ์อย่างสูง เรื่องสั้น บทกวี และบทเพลง สะท้อนปัญหาของประชาชนได้อย่างมีศิลปะ การสร้างสรรค์ผลงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้น บทกวี บทเพลง ล้วนเป็นเรื่องเล่า (Narrative) ที่มีวรรณศิลป์อันทรงคุณค่าต่อวงวรรณกรรมและสังคมไทย ในความเป็นนักเขียน สุรชัย ได้สืบทอดศิลปะการเขียนเรื่องสั้นจากนักเขียนรุ่นครู และสร้างสรรค์เรื่องสั้นแนวอัตวิสัยร่วมไปกับกระแสของวรรณกรรมไทย แนวคตินิยมสมัยใหม่ในยุคแสวงหา ประกอบกับความสนใจในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคม ทำให้งานเขียนมีเนื้อหาและแนวคิดอยู่ในแถวหน้าของกลุ่มวรรณกรรมเพื่อชีวิต ในด้านดนตรีและเพลง การเป็นนายวงดนตรีคาราวาน ทำให้สุรชัยเป็นตำนานแห่งเพลงเพื่อชีวิต เป็น “อาจารย์ใหญ่”ต้นแบบของแนวเพลงนี้ การเขียนวรรณกรรม การเขียนเพลง การเล่นดนตรี เป็นน้ำเนื้อเดียวกันในชีวิตของสุรชัย จันทิมาธร ในช่วงเวลาที่กระแสความคิด
เพื่อชีวิตมีอิทธิพลในสังคมไทยอย่างสูง เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความเป็นศิลปิน (Artist) ของสุรชัย
ทั้งผลงานและจิตวิญญาณมีพลังกระทบ (Impact) ต่อสังคมไทยอย่างแข็งแกร่ง ชื่อของสุรชัย จันทิมาธร
จึงเป็นหมุดหมายที่ตรึงแน่นอยู่บนพื้นที่แห่งศิลปวัฒนธรรมไทยที่กาลเวลาไม่อาจลบเลือน
นายสุรชัย จันทิมาธรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๕๓
แม้จะไม่เคยเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย แต่ร่วมกิจกรรมภาคศิลปะทางปัญญาและทางสังคมกับนักคิด นักเขียนในมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด มีพื้นฐาน เป็นคนอ่านหนังสือมากเพราะพ่อเป็นครู จึงได้อ่านงานเขียนของ มาลัย ชูพินิจ ลาว คำหอม มนัส จรรยงค์ ร. จันทะพิมพะ งานแปลของสไตน์เบ็ค ตลอดจนเรื่องดอกเตอร์ชิวาโก ของบอริส ปาสเตอร์แน็ค จากหนังสือในบ้าน เมื่อมาใช้ชีวิตเร่ร่อนในกรุงเทพฯ ก็อ่านหนังสือโดยตลอด ทำให้หาเงินจากการเขียนหนังสือ เขียนบทกวี ได้ตั้งแต่ยังนุ่งกางเกงขาสั้น เคยมีงานเขียนเรื่องสั้นลงในสยามรัฐรายสัปดาห์สมัยที่คุณประมูล อุณหธูป เป็นบรรณาธิการ ถึง ๒ เรื่อง
พร้อมกันในเล่มเดียว คือ เรื่อง “แล้งเข็ญ” และ เรื่อง “คนและคนบ้า” มีบทกวีลงในชัยพฤกษ์
สมัยอาจารย์เปลื้อง ณ นคร เป็นบรรณาธิการ
ประวัติงานเขียน
ผลงานของนายสุรชัย จันทิมาธร มีทั้งเรื่องสั้น บทกวี เพลง ความเรียง และนวนิยาย ในระยะแรกสุรชัยเขียนเรื่องสั้นโดยใช้นามปากกาว่า ท. เสน เจนจัด ต่อมาจึงใช้นามจริงในการเขียนหนังสือ
ผลงานรวมเล่มของสุรชัย จันทิมาธร มี ๑๐ เล่ม คือ
รวมเรื่องสั้น มี ๔ เล่ม
- มาจากที่ราบสูง (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๑๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๔๙)
- เดินไปสู่หนไหน (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๑๓ พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๔๙)
- ความบ้ามาเยือน (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๑๗ พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๔๙)
- ข้างถนน (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๓๐ พิมพ์ครั้งที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๕๔๙)
รวมบทกวี ๒ เล่ม
- บันทึกผู้ผ่านทาง
- ผ่านตาพ้นใจ
สาระนิยาย ๑ เล่ม
๗. ก่อนฟ้าสาง (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๒๔ พิมพ์ครั้งที่ ๙ พ.ศ. ๒๕๔๙)
รวมเรื่องสั้น บทกวี ความเรียง บทสัมภาษณ์ ๑ เล่ม
- ตะวันสีแดง (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๔๑ พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๔๙)
รวมบทเพลง
๙. เนื้อ (นัย) เพลง ( พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๔๖)
รวมเรื่องสั้นและบทกวีขนาดยาว
๑๐. ทางเส้นเก่า (พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๕๓)
นอกจากนี้บทเพลงของวงคาราวานมีผู้นำไปรวมเล่มเป็นหนังสืออีกจำนวนหนึ่ง และมีผลงานเพลง
เป็นอมตะกว่า ๕๐ อัลบั้ม/แผ่น ร่วมกับสมาชิกในวงอีก ๓ คน
เกียรติคุณที่ได้รับ
- รางวัลศรีบูรพา คนที่ ๑๘ ใน พ.ศ. ๒๕๔๙
นายสุรชัย จันทิมาธรเป็นทั้งนักเขียน กวี และคีตศิลปิน การสร้างสรรค์ผลงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้น บทกวี บทเพลง ล้วนเป็นเรื่องเล่า (Narrative) ที่มีวรรณศิลป์อันทรงคุณค่าต่อวงวรรณกรรมและสังคมไทย ในความเป็นนักเขียน สุรชัย สืบทอดศิลปะการเขียนเรื่องสั้นจากนักเขียนรุ่นครู และสร้างสรรค์เรื่องสั้นแนวอัตวิสัยร่วมไปกับกระแสของวรรณกรรมไทยแนวคตินิยมสมัยใหม่ในยุคแสวงหา ประกอบกับความสนใจในการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคม ทำให้งานเขียนของสุรชัยมีเนื้อหาและแนวคิดอยู่ในแถวหน้าของกลุ่มวรรณกรรมเพื่อชีวิต และด้วยความเป็นศิลปินที่มีแนวคิดมนุษยนิยม คือให้ความสำคัญแก่
ความเป็นมนุษย์ รวมทั้งมีมนุษยธรรมในใจ ทำให้งานของสุรชัยไม่แสดงอารมณ์ก้าวร้าว หากปรารถนาสันติและให้กำลังใจผู้คนเสมอมา อีกทั้งยังเป็นนักเขียนเรื่องสั้นที่แสดงคตินิยมสมัยใหม่ได้โดดเด่นมาก
ในยุคแสวงหา และยังคงรักษาแนวการเขียนเช่นนี้ต่อเนื่องมาโดยตลอด ผลงานของสุรชัยจึงมีส่วนเชื่อมร้อย
งานเขียนเรื่องสั้นแนวขนบนิยม กับงานเขียนแนวหลังสมัยใหม่นิยมได้เป็นอย่างดี