วัดคลองคล้าหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งที่เป็นทางการว่า “วัดศรีมงคล”ตั้งอญุ้ที่หมู่ที่ ๑ บ้านคลองคล้า ตำบลหนองแสง อำเภอปากพลี ตจังหวัดนครนายก จากหลักฐานจารึกที่ผนังพระอุโบสถด้านนอกความว่า “พ.ศ.๒๔๗๑ นายผาลีช่างปั้น”มีการสันนิษฐานว่าพระอุโบสถถูกสร้างในช่วงพ.ศ. ๒๔๗๐ แต่เดิมวัดศรีมงคลตั้งอยี่บ้านหนองหัวเสือ เมื่อมีการจัดตั้งตำบลแบ่งหมู่บ้านวัดศรีมงคลจึงย้ายมาอยู่ที่บ้านคลองคล้า ตำบลหนองแสงส่วนบ้านหนองหัวเสือนั้นไปขึ้นกับตำบลโคกกรวด วัดมีเนื้อที่ทั้งสิ้น ๓ไร่ ๒ งาน ๘๘ ตารางวา เจ้าอาวาสปัจจุบันคือพระอธิการชำนาญ ความสำคัญของวัด คือ วัดศรีมงคลเป็นวัดศรัทธาของคนไทยพวน ที่สร้างและบูรณะวัดมาตลอด อีกทั้งยังมีภาพปริศนาธรรมเป็นภาพจิตรกรรมปูนปั้นนูนสูงแสดงไว้ที่ผนังรอบนอกบริเวณฐานพระอุโบสถ มีทั้งสิ้น ๑๖ ภาพ
ภาพปริศนาธรรม “เชื้อชาติช้าง” ความหมาย
เชื้อชาติช้างช้างผู้อดทนต่อลูกศร ที่ดัสกรยิงมาดังห่าฝน
ไม่ย่อท้อโกรธเคืองให้เปลืองตน เปรียบดั่งคน ขันตี มีแบบมา
เขาว่าคนตาบอดแต่กำเนิด ถึงไปเปิดก็ไม่เห็นดอกหนาจ๋า
หลงคลำช้าง ต่างก็ว่า ต่างๆนา ช่างเกิดมาตาบอดทั้งพวกเอย
ถ้าผู้ใดอดกลั้นต่อถ่อยคำนินทา แช่งดา ล่วงเกินได้อยู่ ผู้นั้นชื่อว่า ฝึกตนแล้ว เป็นผู้ประเสริฐที่สุด บุคคลที่เอาตนออกจากความชั่วร้ายทั้งปวงได้เปรียบดั่งช้างที่ถอนตนออกจากหล่มได้นั้น เป็นผู้มีใจมีกำลังดังช้างสาร
ธมฺโม สุจินฺโน สุขมาวิหาติ ธรรมที่บุคคลประพฤติดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
อนึ่ง ช้างแก้วกุญชร ม้าแก้วอัสดร ที่ฝึกหัดดีแล้วว่าเป็นสัตว์พาหนะอันประเสริฐ ถ้าบุคคลที่ฝึกฝนดีแล้ว ย่อมประเสริฐกว่าสัตว์พาหนะเหล่านั้น
นายผาลี มีศรัทธา จารึกไว้เป็นทาน ท่านผู้ใดมาอ่าน ขอให้สำราญตลอดชาติ