ศิลปะการแสดงและดนตรีประเภทกลองยาว เป็นศิลปะการแสดงที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
กลองยาวกลองยาว
กลองยาว เป็นกลองขึ้นหนังหน้าเดียวตัวกลอง ทำจากไม้ เช่น ไม้มะม่วง ด้านหน้าใหญ่ ตอนท้ายมีลักษณะเรียว แล้วบานปลายเป็นรูปดอกลำโพงมีหลาย
ขนาดและบางขนาดหน้ากลองจะกว้างประมาณ 21 ซม. ยาวตลอดตั้งแต่หน้ากลองถึงปลายหางประมาณ 35 ซม. ตัวกลองมักนิยมตกแต่งกันให้สวยงาม
ด้วยการนำผ้ามาหุ้มไว้ และปล่อยเชิงระบาย ให้ห้อยลงมามีสายสะพานผูกข้างที่รูห่วงริมขอบกลอง ไว้สำหรับสะพายบ่าใช้ตีด้วยมือแต่ผู้เล่นโลดโผนใช้กำ
ปั้นตี ศอกถอง ศรีษะโหม่ง เข่ากระทุ่ง ส้นเท้ากระแทกกัน และการเล่นกันแพร่หลายในทุกบ้าน วงหนึ่งๆ จะใช้กลองหลายลูกก็ได้ เครื่องดนตรีที่บรรเลง
ร่วมมี ฉิ่ง ฉาบเล็ก กรับ โหม่ง เรียกการเล่นชนิดนี้ว่า " เถิดเทิง " หรือ "เทิงบ้องกลองยาง " จึงเรียกตามเสียงที่ตี กลองแบบนี้พม่า เรียกว่า โอสิ (Ozi)
วิธีการตีกลองยาว
ท่ายืนตี จะคล้องกลองยาวสะพายไหล่ขวา ให้ปลายกลองชี้ลงพื้นทางด้านซ้าย ดีด้วยมือขวา ท่านั่งตี จะนั่งใน
ท่าขัดสมาธิ ให้ตอนหัวอยู่บนหน้าตัก ปลายชี้ไปทางด้านซ้ายของผู้ตีตีด้วยมือขวาหลัการตีที่เป็นฐานของกลองยาว
มี 3 แบบ คือ
1. เสียงเทิ่ง คือ การใช้ตีด้วยฝ่ามือขวา ให้นิ้วทั้งสี่เรียงชิดกัน สะบัดปลายข้อมือให้นิ้วทั้งสี่ลงที่หน้ากลอง
2. เสียงบ่อม คือ การตีด้วยมือขวาโดยกำมือเก็บนิ้วทั้งสี่แล้วตีลงไปเหมือนลักษณะทุบที่บริเวณที่ติดข้าวสุกตีแล้ว
เปิดมือทันที เสียงจะกังวาล
3. เสียงป๊ะ คือ การตีด้วยมือขวาโดยนิ้วที่เรียงติดกันกางออกเล็กน้อย ด้วยกำลังที่แรงตีลงแล้วปิดมือทั้ง 3 เป็นพื้น
ฐานในการตีกลองยาว สำหรับมือซ้าย จะตีเป็นอัติโนมัติ ด้วยปลายนิ้ว ทั้งสี่ โดยสลับไปกับมือขวา หรือช่วยกดหน้า
หนังช่วยให้มือขวาทำลูกพิเศษต่าง ๆ