นางบุญรอด จิ๋วเจริญภูมิปัญญาท้องถิ่น ผู้มีความรู้ในการประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ และทำบายศรีสู่ขวัญ ดอกไม้จันท์ทำจากกระดาษ ธูป เทียน ไม้จันทร์ ใช้ในงานอวมงคล ส่วนบายศรีทำจากใบตองและประกอบด้วยดอกไม้สด ใช้ในงานมงคลต่างๆ เช่น งานบวน งานแต่ง เป็นต้น สมัยก่อนในการจัดทำพิธีฌาปนกิจศพ มีธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ควบคู่กับธูปทองและเทียนทอง เพราะเชื่อว่ากลิ่นหอมของดอกไม้จันทน์จะนำดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปสู่สรวงสวรรค์ แต่ธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์จะใช้เฉพาะผู้มีตระกูลสูงเท่านั้น สามัญชนจะใช้ไม่ได้ เพราะดอกไม้จันทน์เป็นของสูง ต้องห้าม และมีราคาแพง ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 เนื่องจากดอกไม้จันทน์เริ่มหายากขึ้น จึงมีผู้คิดค้นประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์เทียม โดยการนำไม้จันทน์มาทำเป็นแผ่นบาง ๆ นำมาเข้ารูปลักษณะคล้ายดอกไม้ชนิดต่าง ๆ แต่รวมเรียกว่า ดอกไม้จันทน์ ใช้ในงานพิธีหลวง ต่อมาจึงแผ่ขยายการใช้ดอกไม้จันทน์เทียมในหมู่สามัญชน จึงเริ่มมีธรรมเนียมการใช้ในหมู่สามัญชน เริ่มธรรมเนียมการใช้ตั้งแต่นั้นมา โดยแขกที่มาร่วมงานจะนำดอกไม้จันทน์ไปวางไว้ที่พานหน้าโลงศพ เป็นการเผาหลอกก่อน แล้วจึงนำดอกไม้จันทน์ทั้งหมดไปใช้ในการเผาจริงอีกครั้ง ต่อมาไม้จันทน์ที่ใช้ทำดอกไม้จันทน์หายากจนแทบหาไม่ได้เลย จึงเปลี่ยนไปใช้วัสดุอย่างอื่นแทน เพราะหาง่ายและมีราคาถูกแต่แก่นแท้ของธรรมเนียมการใช้ดอกไม้จันทน์ก็ยังไม่เปลี่ยนไป ดอกไม้จันทน์แบบทั่วไปที่นิยมใช้กันมาเป็นแบบธรรมดาส่วนใหญ่ทำเป็นรูปดอกกุหลาบ ดอกแก้ว มีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก และมีสีสันตายตัวคือ สีขาว สีครีม หรือสีดำ แต่ในยุคปัจจุบันด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านที่สร้างสีสันสีต่าง ๆ ของดอกไม้จันทน์ ทำให้ดอกไม้จันทน์มีความแปลกในรูปแบบ สีสันที่เปลี่ยนไป ทำให้ทัศนคติของคนที่นำไปใช้มีความรู้สึกว่า การใช้ดอกไม้จันทน์เพื่อเป็นการเคารพ ระลึกถึงผู้ล่วงลับ ไม่มีบรรยากาศของความโศกเศร้าเพียงอย่างเดียว ไม้จันทน์ เป็นไม้ชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นไม้สูงศักดิ์ มีคุณค่า หายาก จึงมีการนำไม้จันทน์มาเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบพิธีศพ โดยอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของหีบศพหรือโลงศพ เป็นฟืนที่ใช้เผาศพ ต่อมาไม้จันทน์มีน้อย หายากหรือแทบหาไม่ได้เลย จึงนำไม้จันทน์มาเป็นส่วนในการประกอบพิธีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก็ได้ เพราะอย่างน้อยก็ยังได้ชื่อว่ามีไม้จันทน์ในการประกอบพิธีในครั้งนั้น ๆ ปัจจุบัน ไม้จันทน์ หายากมากจนแทบหาไม่ได้เลย จึงมีการนำไม้ชนิดอื่นมาทดแทนและประดิษฐ์ในรูปของดอกไม้ประดิษฐ์เป็นสิ่งทดแทนเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน เรียกว่า ดอกไม้จันทน์ ไม้ที่นิยมนำมาประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ ได้แก่ ไม้โมกสกุลต่าง ๆ ไม้มะม่วงป่า เป็นต้น เพราะมีคุณสมบัติคล้ายกัน คือ มีสีเหลืองนวล เหนียว เก็บไว้ได้นาน ไม่ขึ้นสีดำคล้ำ การทำดอกไม้จันทน์มีหลายชนิดหลายแบบ แล้วแต่ผู้ประดิษฐ์จะคิดทำแบบไหน ส่วนมากจะนิยมทำดอกกุหลาบมากที่สุด เพราะดูแล้วจะสวยงามกว่าแบบอื่น ๆ แต่ในที่นี้จะเสนอแนะการทำ 2 แบบ คือ การทำดอกกุหลาบ และการทำดอกแก้ว แบบดอกกุหลาบ วัสดุอุปกรณ์ 1. กระดาษอัดกลีบ 2. กาว 3. ลวดเบอร์เล็กที่สุด 4. ด้าย 5. หนวด 6. ธูป 7. เทียน (เล็กที่สุดสำหรับทำดอกไม้จันทน์) 8. กระดาษทำดอกไม้จันทน์ (จะมีตัดไว้เป็นแผ่น ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว) 9. กระดาษย่นสีดำ 10. กรรไกรตัดกระดาษ 11. กรรไกร ตัดลวด วิธีทำ 1. ตัดลวดยาวประมาณ ๘ ซม. มากน้อยแล้วแต่ความต้องการ ให้เอาลวดแต่ละเส้นที่ตัดไว้ มาหักงอเข้าด้านหนึ่ง ยาวประมาณ ๑ ซม. 2. นำกระดาษดอกไม้จันทน์ที่เป็นแผ่นยาว มาพับกึ่งกลาง พับทบกันเรื่อยๆ จนเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมจะมีขนาดกว้าง ๖ ซม.ครึ่ง แล้วคลี่ออกใช้กรรไกรตัดเป็นแผ่นๆ ออกจากกัน 3. นำกระดาษที่ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม มาพับกึ่งกลาง แล้วใช้กรรไกรตัดสั้น กระดาษที่ทบกัน ซอยห่างกันประมาณ ๒ กระเบียด ลึกประมาณ 2 ซม. จนหมดแผ่น 4. ใช้กรรไกรตัดกระดาษรีดกระดาษที่ตัดไว้ให้โค้งงอ 5. นำลวดที่งอไว้มาสอดในกระดาษที่ตัดในช่องแรก เพื่อป้องกันไม่ให้ลวดหลุด แล้วพันม้วนกระดาษกับลวดจนหมดกระดาษ แล้วนำด้ายมาพันให้แน่น ทำเป็นเกสรกุหลาบ 6. นำกระดาษอัดกลีบมาคลี่ออกเป็นกลีบ ๆ 7. นำกระดาษอัดกลีบ พับตรงโคน 3 จีบเล็ก ๆ ให้เป็นกระพุ้งแก้ม แล้วนำไปเข้า ช่อเกสรดอกไม้ที่ทำไว้ เข้าช่อทีละกลีบใช้ด้ายพันให้แน่น สับหว่างกันทั้ง 4 กลีบทำกระตุกเบ็ดไว้เพื่อไม่ให้หลุดทุกกลีบ ในขณะที่เข้ากลีบแต่ละกลีบ ก็จัดตกแต่งให้กลีบดูสวยงาม 8. ตัดเทียน 1 แท่ง ให้เป็น 4 แท่ง ตัดธูปยาวเท่ากับเทียน 9. ตัดกระดาษย่นที่จะนำมาพันก้าน ตัดตามขวางกว้างประมาณ 1 ซม. 10.ใช้กระดาษย่นที่ตัดแล้ว ยืดออกเล็กน้อย นำมาทากาวพันก้านดอกกุหลาบที่เข้ากลีบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่พันก้าน ใช้มือคลึงกระดาษย่น จะได้เรียบ พันยาวลงมาประมาณ 2 ซม. นำหนวดมาพับกึ่งกลางเข้าช่อยาวพอประมาณและพันก้านดอกไม้ต่อจนหมด 11. นำธูปเทียนที่ตัดไว้อย่างละ 1 แท่ง มาเข้าตรงปลายก้านดอกด้านล่างใช้กระดาษย่นทากาวพันให้แน่น ใช้กรรไกรตัดลวดที่ยาวเกินไปตกแต่งให้สวยงาม แบบดอกแก้ว วัสดุ – อุปกรณ์ 1. กระดาษทำดอกไม้จันทน์ (จะมีเฉพาะตัดไว้เป็นแผ่น ๆ ที่เสร็จแล้ว) 2. ลวดเบอร์เล็กสุด 3. หนวด 4. กาว 5. ด้าย 6. ธูป 7. เทียน 8. กระดาษย่นสีดำ 9. กรรไกรตัดกระดาษ 10. กรรไกรตัดลวด วิธีทำ 1. ตัดลวดยาวประมาณ 8 ซม. 2. นำลวดที่ตัดไว้แต่ละเส้นมาหักงอเข้าด้านหนึ่งยาวประมาณ 1 ซม. 3. นำกระดาษที่ทำดอกไม้จันทน์ที่เป็นแผ่นยาวมาพับกึ่งกลาง พับเรื่อยๆ จนเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมกว้าง 6.5 ซม. แล้วคลี่ออก ใช้กรรไกรตัดเป็นแผ่นๆ ออกจากกัน 4. นำกระดาษที่ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมมาพับกึ่งกลาง แล้วตัดออกเป็น 2 ชิ้น เพื่อที่จะทำเกสร แล้วตัดซอยให้เป็นฝอย ๆ ด้านใดด้านหนึ่งของกระดาษ ลึกประมาณ 2 ซม. จนหมดแผ่น ใช้กรรไกรรีดกระดาษที่ตัดฝอยให้โค้งงอ 5. นำลวดที่งอไว้มาสอดในการะดาษที่ตัดในช่องแรก เพื่อป้องกันไม่ให้หลุด แล้วพันม้วนกระดาษกับลวดจนหมดกระดาษ แล้วนำด้ายมาพันให้แน่น ทำเป็นเกสรดอกแก้ว 6. นำกระดาษที่พับเหมือนในข้อ 3 เอาแต่ละแผ่นมาพับทบกันให้ได้ 5 กลีบ แล้วคลี่ออก ตัดตามรอยพับยาวลงมาประมาณ เศษสามส่วนสี่นิ้ว จะได้กลีบดอก 5 กลีบ 7. ใช้กรรไกรตัดกระดาษ รีดกลีบดอกไม้ทั้ง 5 กลีบให้โค้งงอ แล้วทากาวด้านข้าง เอามาประกบกันให้เป็นรูปดอกไม้ 8. เมื่อทากาวแห้งแล้ว ใช้มือจับจีบด้านที่ไม่ได้ตัดให้เป็นรูปดอกแก้ว 9. นำเกสรดอกแก้วที่ทำไว้มาใส่ตรงกลางดอกแก้ว ใช้ด้ายพันก้านดอกแก้วให้แน่น แล้วทำกระตุกเบ็ด เพื่อไม่ให้หลุด 10. เมื่อทำดังข้อ 9 แล้ว 3 ดอก ก็นำมาเข้าช่อ 3 ดอก จะได้ 1 ช่อ โดยให้ดอกกลางสูงกว่า 11. ตัดกระดาษย่นตามขวางประมาณ 1 ซม. 12. ใช้กระดาษย่นที่ตัดแล้ว ยืดออกเล็กน้อย ทากาวพันก้านดอกแก้วที่เข้าช่อแล้ว ในขณะพันก้าน ใช้มือคลึงกระดาษย่นจะได้เรียบ พันยาวประมาณ 2 ซม. นำหนวดมาพับกึ่งกลาง เข้าช่อส่งยาวพอสวยงาม และพันก้านดอกไม้จนหมด 13. ตัดเทียนแท่งเล็ก ให้เป็น 4 ท่อน 14. ตัดธูปยาวเท่ากับเทียน 15. นำธูปเทียนที่ตัดไว้อย่างละ 1 แท่ง มาเข้าตรงปลายก้านดอกไม้ด้านล่าง ทากาวพันกระดาษย่นให้แน่น 16. ใช้กรรไกรตัดหนวดที่ยาวเกินไป ตกแต่งให้สวยงาม