ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 16° 40' 7.3128"
16.6686980
ลองจิจูด (แวง) : E 103° 19' 26.319"
103.3239775
เลขที่ : 123678
พระครูพิจิตรสิทธิคุณ
เสนอโดย witdet@hotmail.com วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555
อนุมัติโดย สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ วันที่ 22 มิถุนายน 2555
จังหวัด : กาฬสินธุ์
0 307
รายละเอียด

เด็กชายศรเสริญ พหลทัพ เกิดเมื่อวันที่ ๘ เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๒ ณ บ้านเลขที่ ๓๒ บ้านหนองหอไตร หมู่ที่ ๒ ตำบลสหัสขันธ์ อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์

ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่ฉลาด ประกอบกับบิดาเป็นทายกวัดทำให้ต้องคลุกคลีกับวัดมาตั้งเต่เด็ก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เด็กชายศรเสริญ ไม่ค่อยมีศรัทธาในพระเณร เพราะเห็นการกระทำที่ไม่ค่อยดีของพระเณรอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะพระเณรในสำนักเรียน ตอนอายุประมาณ ๑๐ ถึง ๑๒ ปีเคยใช้กำลัง รังแกเณรอยู่บ่อย ๆ จนพ่อเรียกว่า “ไอ้คอมมิวนิสต์” แต่ในช่วงระยะเวลาที่ทำหน้าที่ ในช่วงที่เป็นหัวหน้าห้องเรียน หัวหน้าโรงเรียน เขาจะทำหน้าที่นำไหว้พระสวดมนต์ ตลอดทั้งนิมนต์พระมาเทศที่โรงเรียน เขาทำได้ทุกอย่าง


ชีวิตในวัยหนุ่ม

เมื่อพ้นเกณฑ์ ชั้นประถม ก็มีโอกาสเข้าศึกษาต่อในต่างจังหวัดโดยทางครอบครัวส่งไปเรียนต่อที่จังหวัดมหาสารคาม ในช่วงนี้หนุ่มศรเสริญ มีโอกาสได้เข้าวัดอีกครั้งหนึ่งเพราะครูวิชาศีลธรรมให้เข้าฟังเทศน์เพื่อทำรายงาน วัดแรกที่เขาไปฟังเทศน์ คือวัดบ้านส่อง ต่อจากนั้นก็หมุนเวียนไปอีกหลายวัดในเขตเทศบาล จนมีวัดหนึ่งคือวัดมหาชัยได้ฟังพระฝรั่งจากวัดป่านานาชาติมาเทศน์ ทำให้ได้ข้อคิดว่าขนาดต่างชาติยังมาบวชเป็นพระในพุทธศาสนา พุทธศาสนาต้องมีดีแน่นอน

ต่อจากนั้นอีกหลายปีย้ายไปเรียนต่อในกรุงเทพทำให้ต้องห่างวัดอีกครั้งหนึ่ง และในปีนี้เอง แม่อันเป็นสุดที่รักของเขาได้ตายจากไป

ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้งานทำที่บริษัทชะอำไพน์แอปเปิ้ล แคนเนอร์รี่ จำกัด อัตราเงินเดือน วุฒิปริญญาตรี ๒,๗๐๐ บาท เท่ห์ไม่เบา เขาใช้ชีวิตให้สิ้นไปวันๆโดยเปล่าประโยชน์ ทำงาน กิน เที่ยว เท่านั้นเอง


เข้าสู่ร่มผ้ากาสาวภัสตร์

แรงจูงใจที่ทำให้อยากบวช คือประเพณีทางภาคกลางคนที่จะแต่งงานได้โดยที่พ่อแม่ฝ่ายหญิงยินยอมนั้น ต้องผ่านการบวชเรียนตามประเพณีมาก่อน หนุ่มศรเสริญ เจอคำถามที่ว่า “บวชมาหรือยังหนุ่ม” จากพ่อแม่ของหญิงสาวที่เขาตามไปถึงบ้าน ประกอบกับช่วงนั้นได้รับจดหมายจากทางบ้านบอกให้ลางานขึ้นมาบวชในงานอุทิศกุศลหาแม่ เขาจึงลางาน จากวันที่ ๑๐ เมษายน ถึงวันที่ ๑๐ พฤษภาคม เก็บข้าวของกลับบ้านตั้งใจบวชให้แม่สัก ๗ วัน เหลือนั้นท่องเที่ยวภาคอีสาน ให้เต็มที่แล้วเอารูปงานบวชที่ถ่ายอย่างเต็มที่กลับไปอวดพ่อแม่สาว ๆ ต่อไป

เข้าโบสถ์อุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ถ่ายรูปในงานบวช หมดฟิล์ม ไป ๕ ม้วน

ในช่วงที่บวชนั้นชาวบ้านกำลังเห่อการปฏิบัติกรรมฐานกันมาก พวกแม่ชีในวัดยุให้พระบวชใหม่ปฏิบัติให้เต็มที่เพราะมีเวลาน้อย โดยมีพ่อขาวสุรพล ( ครูโรงเรียนหนองหอไตรที่ปลีกเวลาในช่วงปิดเทอมมาบวชถือศีล ๘ ) เป็นผู้ดูแลแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติ ปฏิบัติที่วัดเคี่ยวมาก ฉันเช้าเสร็จ ประมาณ ๘.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๐.๓๐ น. ๑๒.๐๐ น. ถึง ๑๕.๓๐ น. และ ๑๘.๐๐ น. ถึง ๒๒.๐๐ น.

พระบวชใหม่ปฏิบัติได้สามวันมีความรู้สึกว่า พุทธศาสนา โดยเฉพาะในสายปฏิบัติมีอะไรหลายอย่างที่ท้าทาย น่าศึกษาค้นคว้า วันที่สี่ของการบวช พ่อครูได้พาพระใหม่ออกจากวัด โดยการเดินธุดงค์ มุ่งสู่ถ้ำน้ำป๊อกในดงมูล ซึ่งไกลจากวัดหลาย สิบกิโลเมตรทีเดียว

พระใหม่เท้าระบมตั้งแต่วันแรกที่ออกเดินทาง แต่ไม่เคยย่อท้อเพราะสภาพจิตในขณะนั้นมีแต่ความปีติ ซาบซ่านท่ามกลางแสงแดดอันร้อนจ้าแห่งเดือนเมษายน พ่อครูพาพักที่ถ้ำน้ำป๊อก ๓ คืน พาเดินทางข้ามเขา ไปถ้ำไม้รัง ฝั่งอำเภอท่าคันโท ปฏิบัติอยู่ที่นั่นอีก ๕ คืน พ่อขาวพากลับวัด ความตั้งใจที่จะสึกเมื่อบวชครบ ๗ วัน ได้หายจากความรู้สึกของพระใหม่หมดแล้ว ที่เหลือขึ้นมาแทนที่คือสำนักปฏิบัติและครูสอนกรรมฐาน

พระศรเสริญ ออกท่องยุทธภพตั้งแต่ยังไม่ได้พรรษา ไปหลายสำนักด้วยกัน แต่ที่ติดใจ ยอมถวายตัวเป็นลูกศิษย์ คือหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ( พระครูเกษมวรกิจ ) วัดถ้ำผาจม อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และและหลวงพ่อมหาวิจุล ปิยภาณี ( พระครูสิริปิยธรรม )วัดพระปรางค์สีดา กิ่งอำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา(๒๕๔๐)

พอพ้นพรรษาที่ ๑ พระอาจารย์ขันทองได้จากไป ปล่อยให้พระศรเสริญ ดูแลวัดแทนท่านต้องสอนกรรมฐานให้แก่พระเณรตลอดทั้งญาติโยมในวัด และในขณะเดียวกันในเวลากลางวันท่านต้องไปสอนโรงเรียนสิริวัฒน์ศึกษาซึ่งเป็นโรงเรียนปริยัติศึกษาของพระอุปัชฌาย์ของท่าน ในปีนั้นเองพระเณรวัดหนองหอไตร เพิ่มจำนวนขึ้นมาก ถึง ๒๐ รูป และจากปีนั้นเป็นต้นมาท่านมีโครงการจัดงานปฏิบัติธรรมประจำปีจนกระทั่งปัจจุบัน


ตำแหน่ง

พ.ศ. ๒๕๒๙ รักษาการเจ้าอาวาสวัดหนองหอไตร

พ.ศ. ๒๕๓๑ รักษาการเจ้าคณะตำบลลำหนองแสน

พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นเจ้าคณะตำบลลำหนองแสน

พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหอไตร

พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นประธานศูนย์พัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ ฯ วัดหนองหอไตร
หน้าที่การงาน

พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็นครูสอนโรงเรียน(ปริยัติสามัญ)สิริวัฒน์ศึกษา

พ.ศ ๒๕๓๑ เป็นครูพิเศษศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน

พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นประธาน อ.ป.ต. ลำหนองแสน

เป็นครูสอนวิชาจริยศึกษาโรงเรียนหนองหอไตรราษฎร์บำรุง

พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นพระนักเผยแผ่ประจำอำเภอหนองกุงศรี

เป็นวิทยากรพิเศษอบรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอหนองกุงศรี

เป็นวิทยากรพิเศษโครงการชุมชนมวลชนสัมพันธ์

เป็นวิทยากรพิเศษโครงการแสงเทียน

เป็นวิทยากรพิเศษอบรมตำรวจ สภอ.หนองกุงศรี

พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำอำเภอหนองกุงศรี


สรุป

จะเห็นได้ว่าพระพุทธศาสนาจะตั้งอยู่ได้นั้น ศาสนิกต้องศึกษาให้เข้าใจ ทั้งฝ่ายปริยัติ และฝ่ายปฏิบัติ ถ้ามีเฉพาะปริยัติขาดการปฏิบัติแล้วการกระทำที่แสดงออกไปจะเป็นแบบดื้อรั้นหลงตัวเอง ถือดีว่าตัวเองรู้มาก จนในที่สุดดูถูกคนอื่นว่าไร้การศึกษา ไม่รู้เท่าตัวเอง จนในที่สุดทำตัวเองให้ออกนอกทางคำสอนของพระพุทธเจ้าก็มี

ส่วนผู้ปฏิบัติแต่ขาดปริยัติ ก็อาจทำให้โง่งมงายปฏิบัติผิดทางได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้น

ควรศึกษาทั้งปริยัติ และปฏิบัติให้ควบคู่กันไป เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเอง แก่ผู้อื่นและที่สำคัญแก่พระพุทธศาสนาของเราท่านทั้งหลาย

สถานที่ตั้ง
วัดหนองหอไตร
เลขที่ 137 หมู่ที่/หมู่บ้าน 8 ซอย - ถนน -
ตำบล ลำหนองแสน อำเภอ หนองกุงศรี จังหวัด กาฬสินธุ์
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
พระครูพิจิตรสิทธิคุณ
บุคคลอ้างอิง พระครูพิจิตรสิทธิคุณ
ชื่อที่ทำงาน วัดหนองหอไตร
เลขที่ 137 หมู่ที่/หมู่บ้าน 8
ตำบล ลำหนองแสน อำเภอ หนองกุงศรี จังหวัด กาฬสินธุ์ รหัสไปรษณีย์ 46220
โทรศัพท์ 043881060
เว็บไซต์ www.watnonghotri.com
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 22:04
ดีมากครับ
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่