ข้าว กข31 (ปทุมธานี 80)
ประวัติ
พัฒนามาจากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวไทย สายพันธุ์ SPR85163-5-1-1-2 กับข้าวต่างประเทศ สายพันธุ์ IR54017-131-1-3-2 ในปี พ.ศ. 2536 ที่ศูนย์วิจัยข้าวสุพรรณบุรี ปลูกคัดเลือกข้าวพันธุ์ผสม ที่ศูนย์วิจัยข้าวเขตภาคกลาง และปลูกทดสอบในนาเกษตรกร 8 จังหวัดภาคกลาง และคณะกรรมการพิจารณารับรองพันธุ์ กรมการข้าว มีมติให้เป็นพันธุ์รับรอง เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2550
ลักษณะเด่น
1. คุณภาพเมล็ดทางกายภาพสม่ำเสมอกว่าพันธุ์สุพรรณบุรี 1
2. ต้านทานเพลี้ยกระโดดหลังขาว ค่อนข้างต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
3. ค่อนข้างต้านโรคขอบใบแห้ง โรคใบจุดสีน้ำตาล และโรคเมล็ดด่าง
4. ผลผลิตสูง ต้นแข็ง ไม่ล้มง่าย ผลผลิตเฉลี่ย 738 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกโดยวิธีหว่านน้ำตม และ 745 กิโลกรัมต่อไร่ โดยวิธีปักดำ ถ้ามีการจัดการปุ๋ยที่เหมาะสมและดูแลรักษาดีสามารถให้ผลผลิตได้สูงถึง 1,160 กิโลกรัมต่อไร่
พื้นที่แนะนำ
พื้นที่นาชลประทานภาคกลาง
ข้อควรระวัง
อ่อนแอต่อโรคไหม้ โรคใบหงิก และโรคใบสีส้ม
ลักษณะประจำพันธุ์
1. เป็นข้าวเจ้าชนิดไม่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ทุกฤดู ลักษณะทั่วไปคล้ายพันธุ์สุพรรณบุรี 1
2. กอตั้ง ต้นสูงเฉลี่ย 117 เซนติเมตร อายุเก็บเกี่ยว 110-118 วัน
3. ใบธงตั้ง คอรวงยาว รวงยาว แตกระแง้ปานกลาง มีเมล็ดเต็ม 130 เมล็ดต่อรวง
4. ชูรวงสม่ำเสมอในระยะเริ่มออกดอก และรวงอยู่ใต้ใบธงเล็กน้อยในระยะสุกแก่
5. เมล็ดเรียว ยาวกว่าเมล็ดของพันธุ์สุพรรณบุรี 1 เมล็ดสีฟาง นวดง่าย
6. เมล็ดเป็นท้องไข่น้อย มีอมิโลสสูง (27-29 %) ข้าวสุกค่อนข้างแข็ง
การใส่ปุ๋ย
ครั้งที่ 1 หลังหว่านข้าว 20 วัน ใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 หรือ 16-16-8 หรือ 16-12-8 หรือ 18-12-6 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่
ครั้งที่ 2 เมื่อข้าวอายุ 35-45 วัน ใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่
ครั้งที่ 3 เมื่อข้าวอายุ 55-65 วัน ใช้ปุ๋ยสูตร 46-0-0 อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่