กาน้ำชาลายครามรูปคนจีนนั่งบนกา สวมหมวกใส่เสื้อคลุม ถือไม้เท้าซึ่งยันติดกับห่วงรูปไข่
ทำเป็นที่จับ ดานหลังคนจีนมีรูสำหรับใส่น้ำ นุ่งผ้านุ่งเป็นริ้ว ปลายพวยกาทำเป็นลวดลาย ศิลปะจีน
เครื่องลายครามที่มีสีสันงดงาม มีรูปทรงแปลกตาทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก
ในราวพุทธศตวรรษที่ ๒๑ –๒๒ ซึ่งตรงกับสมัยอยุธยาตอนกลางหรือในสมัยราชวงศ์หมิงของจีน
ตลาดการค้าเครื่องถ้วยของจีนได้ขยายตัวลงมาทางตอนใต้ ผนวกกับที่อยุธยากลายเป็นตลาด
สินค้าที่คึกคักมากขึ้นในภูมิภาค เครื่องลายครามที่เป็นสินค้า เช่น ป้านชา ชุดน้ำชา แจกัน โถ
มีฝาปิด กระปุกขนาดต่าง ๆ กระโถน จาน ชาม เป็นต้น
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์มีความนิยมเครื่องลายครามและเครื่องกระเบื้องของจีนเพิ่ม
มากขึ้น พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ มีพระราชนิยมในศิลปะจีนมาก จึง
ทรงใช้กระเบื้องเคลือบแบบจีนในการประดับตกแต่งวัดต่าง ๆ
ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เครื่องลายครามจีนได้รับ
ความนิยมเป็นอย่างยิ่งในฐานะของสะสม มีการออกแบบเครื่องลายครามให้มีรูปทรงงดงาม
แปลกตามีลวดลายพิเศษ เช่น ชุดป้านชา ชุดชาม กระปุก กระโถน กระถาง แจกัน เครื่องลายคราม
พวกนี้เรียกกันว่า เครื่องกังไส ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดให้มีการประกวด
เครื่องลายครามชุดเครื่องโต๊ะ รวมทั้งมีตำราว่าด้วยเครื่องโต๊ะและถ้วยปั้นและมีการตราพระราช
บัญญัติเพื่อการประกวดและตัดสินด้วย
เครื่องถ้วยจีนเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่าทั้งในด้านความงามของศิลปะ
และกรรมวิธีในการผลิต และเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บอกเล้าถึงการเชื่อโยงความสัมพันธ์
ระหว่างจีนกับประเทศอื่น ๆ เครื่องถ้วยจีนมีรูปทรงที่งดงาม มีลวดลายที่แปลกตา เป็นเอกลักษณ์
ของตน ทั้งยังมีคุณภาพสูงกว่าเครื่องถ้วยอื่น ๆ ทั่วไป จึงทำให้เครื่องถ้วยจีนนั้นเป็นที่นิยมสะสม
ทั่วทุกมุมโลก
เครื่องถ้วยจีนที่พบในประเทศไทยนั้นกระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่าง
ชัดเจนว่าชุมชนต่าง ๆ ในสุวรรณภูมิมีการติดต่อกับโลกภายนอกอย่างยาวนาน เครื่องถ้วยที่พบ
สามารถจัดแบ่งอย่างกว้าง ๆ ได้ ๖ สมัย คือ
๑. ปลายสมัยราชวงศ์ถัง –สมัยห้าราชวงศ์ (พุทธศตวรรษที่ ๑๕ –พ.ศ. ๑๕๐๓)
๒. สมัยราชวงศ์ซุ่งภาคเหนือ (พ.ศ. ๑๕๐๓ - พ.ศ.๑๖๗๐)
๓. สมัยราชวงศ์ซุ่งภาคใต้ (พ.ศ.๑๖๗๐ –พ.ศ.๑๘๒๒)
๔. สมัยราชวงศ์หยวน (พ.ศ.๑๘๒๒ –พ.ศ.๑๙๑๑)
๕. สมัยราชวงศ์หมิง (พ.ศ. ๑๙๑๑ –พ.ศ. ๒๑๘๗)
๖. สมัยราชวงศ์ชิง (พ.ศ. ๒๑๘๗ –พ.ศ.๒๔๕๔)
ปัจจุบันนี้เรารู้จักเครื่องถ้วยจีนในชื่อเครื่องลายคราม ซึ่งเป็นเครื่องถ้วยประเภทเขียน
สีน้ำเงินหรือสีครามใต้เคลือบ เนื่องจากเครื่องลายครามมักได้รับการกำหนดอายุไว้ โดยอาศัย
การศึกษาเปรียบเทียบรูปทรง ลวดลาย เนื้อดิน น้ำเคลือบ ตลอดจนเทคนิคพิเศษในการผลิต และ
ในบางชิ้นอาจจะมีจารึกปีศักราชหรือปีรัชกาลของพระเจ้าจักรพรรดิจีนทำให้เราสามารถกำหนด
อายุเครื่องลายครามจีนได้ค่อนข้างแน่นอนกว่าประเภทอื่น ๆ
เครื่องลายครามจีนนั้นเริ่มมีการผลิตในครั้งแรกในสมัยราชวงศ์หยวนหรือประมาณปลายพุทธ
ศตวรรษที่ ๑๙ มีแหล่งผลิตที่สำคัญที่เมืองจิ่งเต๋อจิ้น มณฑลเจียงซี เครื่องลายครามจีนสมัยราชวงศ์
หยวนที่พบในประเทศไทยส่วนใหญ่จะพบในชุมชนโบราณที่มีอายุสมัยสุโขทัย ล้านนาและอยุธยา
ตอนต้น เช่นเครื่องลายครามที่พบตามกรุต่าง ๆ