อาชีพเพาะเลี้ยงเห็ด เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัว ทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพสำรองจากงานประจำก็ได้
นางรุจิรา รุณผาบอยู่บ้านเลขที่ 138 หมู่ที่ 18 บ้านกลางดง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์เจ้าของสวยเห็ดรุจิรา กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า การประกอบอาชีพทางด้านการเกษตร ต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะ ขยัน มุมานะ และต้องมีความอดทนจึงจะ พออยู่พอกิน ดำรงชีพที่จะอยู่ในสังคมได้ เกษตรกรส่วนใหญ่จะมีรายได้หลักจากการ ทำไร่ ทำนา ทำสวน ชีวิตเกษตรกรจะต้องมีรายได้ประจำวัน ประจำเดือนและประจำปี รายได้ประจำปีนั้นอาจถือเป็น “โบนัสพิเศษของชีวิต”ก็ยังได้
นางรุจิรากล่าวว่า อาชีพการเพาะเลี้ยงการเพาะเห็ด เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ซึ่งสามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัว ทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมสำรองจากงานประจำก็ได้ สวนเห็ดรุจิรากาฬสินธุ์เป็นแหล่งเรียนรู้อีกแห่งหนึ่งที่มีความประสงค์จะถ่ายทอดความรู้แก่ชุมชนเพื่อพิชิตความยากจนประสบความสำเร็จ โดยมีเครือข่ายทั่วประเทศร่วม 1,000 เครือข่ายที่ได้รับความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงเห็ด ตลอดจนการจัดรวมกลุ่มเพื่อประกอบอาชีพการเพาะเลี้ยงเห็ดสร้างรายได้เลี้ยงครัวเรือน
เห็ดที่ส่งเสริมในการเพาะเลี้ยงมี เห็ดนางฟ้า นางรม ขอนขาว ขอนดำ สำหรับเห็ดขอนขาวสวนเห็ดรุจิราทำการเพาะมาตั้งแต่ ปี 2528 สำหรับเห็ดบดหรือเห็ดกระด้าง ทางสวนทำการเพาะมาตั้งแต่ปี 2532 โดยใช้ขี้เลื่อยสั่งตรงจากภาคใต้ 1 รถ 10 ล้อ บรรทุกได้ประมาณ 13 ตัน ราคาคันละ 25,000บาท สามารถนำขี้เลื่อยมาทำเป็นถุงเพาะเชื้อเห็ดได้ถึง 25,000 ถุง และส่งจำหน่ายถุงละ 7-8 บาท รายได้รวมประมาณ 175,000-200,000บาท ต่อขี้เลื่อย 1 รถ 10 ล้อ
นางรุจิรากล่าวอีกว่า สวนรุจิรา กาฬสินธุ์ ยังมี“เห็ดหลินจือ”ที่ผลิตในสวนแห่งเดียวในเขตพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ขั้นตอนการเพาะทำเหมือนการเพาะเห็ดชนิดอื่นๆ เมื่อนำไปเปิดดอกจะใช้เวลา 1-2 เดือนแล้วแต่พันธุ์เห็ดหลินจือ 1 ถุงเห็ดหลินจือจะออกดอกได้เพียงแค่ถุงละ 1 ดอก ที่มีคุณภาพสูงสุด เพื่อนำสปอร์มาดำเนินตามขั้นตอนบรรจุเป็นแคปซูลสำเร็จรูป ส่วนดอกเห็ดก็นำมาทำเป็นเห็ดแห้งเพื่อบำรุงร่างกายและรักษาโรค
เห็ดหลินจือมีต้นกำเนิดจากภูเขาในประเทศจีน ซึ่งชาวจีนค้นพบมายาวนาน กว่า 2,000 ปี ซึ่งมีคุณค่าสามารถป้องกันและบำบัดรักษาโรค ลักษณะเห็ดหลินจือ รูปร่างคล้ายไต สีแดงอมน้ำตาลหรือสีม่วงแก่ มีลาย วงแหวน มีความวาวมัน มีลักษณะแข็งเหมือนเนื้อไม้ ในประเทศไทยสามารถพบเห็ดหลินจือในธรรมชาติได้เกือบทุกภาคของประเทศและยังพบว่ามีการใช้เห็ดหลินจือในการป้องกั นโรคหวัด แก้พิษงู แมลงสัตว์กัดต่อย แก้อาการเมาเห็ด บำรุงร่างกาย แก้ปวดหลังและรักษาโรคภายใน
สรรพคุณทางยา สมุนไพรเห็ดหลินจือได้รับการยอมรับในการนำมารักษาโรคด้วยวิธีทางธรรมชาติ ด้วยหลักแห่งความสมดุลของหยินหยาง เพื่อสร้างความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้ง 3 ระบบ ได้แก่ 1.ระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอักเสบ ลำไส้อักเสบ ท้องผูก ตับอักเสบ 2.ระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหลอดลมอักเสบ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ 3. ระบบไหลเวียนของโลหิต เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเม็ดเลือดขาวต่ำ ขจัดสารพิษในหลอดเลือด บรรเทาอาการปวด โรคประสาท โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ โรคเบาหวาน โรคมะเร็งและยังสามารุบรรเทาอาการของโรคอื่นๆได้ด้วย
การใช้รักษาโรคมะเร็ง ใช้เห็ดหลินจือแห้งวันละ 9-15 กรัมต่อวันหรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 2 กรัมต่อวัน การใช้เพื่อรักษาโรคทั่วไปใช้เห็ดหลินจือแห้งวันละ 6 กรัมต่อวันหรือเห็ดหลินจือสกัดวันละ 20.01-0.5 กรัมต่อวัน สนใจเข้าอบรม ศึกษาดูงานทั้งระดับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่คิดอยากหายจน ติดต่อสอบถามคุณ รุจิรา โทร. 043-600619หรือ081-8718517