ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 6° 48' 58.5641"
6.8162678
ลองจิจูด (แวง) : E 101° 24' 15.4422"
101.4042895
เลขที่ : 187876
สุเหร่าอาโหว์
เสนอโดย Korkee วันที่ 19 เมษายน 2556
อนุมัติโดย ปัตตานี วันที่ 1 พฤษภาคม 2556
จังหวัด : ปัตตานี
0 1369
รายละเอียด

รายละเอียดข้อมูล

ชื่อสถานที่ สุเหร่าอาโหว์

สถานที่ตั้ง หมู่ที่ ๑ ตำบลมะนังยง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี

ประวัติความเป็นมา

สุเหร่าอาโหว์เป็นศาสนสถานอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ในเป้าหมายของรัฐในการฟื้นฟู จึงเห็นว่าเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เป็นตัวบอกเล่ารากเหง้าของคนมลายูได้เป็นอย่างดี ซึ่งสุเหร่าทำด้วยไม้ ลักษณะยกพื้นใต้ถุนสูงพอสมควร ตัวสุเหร่ามีลักษณะลวดลายแกะสลักเหนือลูกกรง ฝาผนังเป็นแบบฉบับหรือรูปแบบเสมือนบ้านสมัยโบราณ ( ด้านหน้ามีประตูทั้ง ๒ ข้าง ) สุเหร่าอาโหว์ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลมะนังยง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ประวัติความเป็นมาค่อนข้างยาวนานมีอายุกว่า ๔๐๐ ปี จากการบอกเล่าของปราชญ์ท้องถิ่นเล่ามาว่า เดิมทีสุเหร่าแห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณริมคลองตันหยง และมีสุเหร่าอีกแห่งหนึ่งตั้งขนานกันริมฝั่งคลองชื่อสุเหร่าสุไหงยาลอ แต่สุเหร่าอีกแห่งหนึ่งได้ผุพังไปตามเงื่อนไขทางกาลเวลา สาเหตุที่สุเหร่าดังกล่าวตั้งอยู่ริมน้ำสันนิฐานได้ว่าน่าจะเป็นเพราะการคมนาคม ค้าขายทางน้ำ เมื่อครั้งปัตตานีรุ่งเรืองมีการติดต่อระหว่างชวาและมะละกา ต่อมาเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลงผู้คนเริ่มสัญจรทางน้ำน้อยลงและหันมาใช้ถนนหนทางมากขึ้นทำให้ชาวบ้านในขณะนั้นได้ย้ายสุเหร่าดังกล่าวที่อยู่ริมน้ำมาตั้งไว้ในพื้นที่ ปัจจุบันโดยมีชาวบ้านในท้องถิ่นนั้นได้ยกที่ดินของตนให้เป็นที่สาธารณะและตั้งสุเหร่าดังกล่าว จากการบอกเล่าของชาวบ้านว่าตอนย้ายสุเหร่าดังกล่าวมานั้นมิได้ทำการรื้อถอนสุเหร่าแล้วนำมาประกอบใหม่แต่ใช้วิธีการยกมาทั้งหลังจากการสำรวจพบว่า สุเหร่าอาโหว์ นั้นถูกสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลังโดยไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ดอกเดียว ซึ่งเป็นศิลปะการก่อสร้างเป็นแบบชวาดั้งเดิมมีลวดลายที่บ่งบอกที่มาที่ไป และอายุของสุเหร่าโบราณนี้ได้อย่างดี หลังคาทำด้วยกระเบื้องโบราณ เสาทุกต้นใช้วิธีการเข้าสลักแบบโบราณ ผู้ที่ก่อสร้างสุเหร่าแห่งนี้คือ โต๊ะลางิอีแต เป็นผู้นำช่างจากชวามาก่อสร้างหลักฐานที่ยืนยันข้อมูลนี้คือหลุมฝังศพ (กุโบว์) ของโต๊ะลางิอีแตที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้านที่ตั้งสุเหร่า และอายุของสุเหร่าน่าจะมีอายุใกล้เคียงกับมัสยิดวาดีอัล-ฮุเซน (ตะโล๊ะมาเน๊าะ) จังหวัดนราธิวาส

ปัจจุบันได้มีการบูรณะฟื้นฟูสุเหร่าโดยช่างภูมิปัญญาชาวบ้าน และมีโครงการปรับปรุงสภาพภูมิทัศน์บริเวณมัสยิด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี มีการก่อสร้างอาคารต่างๆ เช่น อาคารอาบน้ำละหมาด ๒ หลัง (ชาย/หญิง) อาคารห้องน้ำ ๑ หลัง โรงครัว ๑ หลัง และมีการจัดทำทางเท้าและสนามหญ้าบริเวณสุเหร่าเพื่อความสวยงาม ต่อมาการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้เขต ๓ ได้ทำจัดโครงการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ปาตอนีดารุสลาม โดยได้รับความร่วมมือจากทางเทศบาลตำบลตันหยง สุเหร่าอาโหว์ก็เป็นสุเหร่าหนึ่งที่อยู่ในโครงการซึ่งมีความน่าสนใจและน่าเข้าไปศึกษา ส่วนการเดินทางมีความสะดวกสบาย ห่างจากตัวเมืองปัตตานีประมาณ ๒๒ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๔๒ เมื่อถึง ๓ แยกประปาเทศบาลเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ ๕๐๐ เมตร ก็ถึงที่ตั้งสุเหร่า

เอกลักษณ์โดดเด่นของสถานที่

เอกลักษณ์โดดเด่นของสุเหร่า คือ ถูกสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลังโดยไม่มีการใช้ตะปูแม้แต่ดอกเดียว ซึ่งเป็นศิลปะการก่อสร้างเป็นแบบชวาดั้งเดิม

กลุ่มคนที่ใช้

ประชาชนในหมู่บ้าน

จำนวนผู้ที่อาศัย

๓๐ คน

ชื่อผู้ดูแล

นายสมาน เจ๊ะปอ

สถานที่ตั้ง
สุเหร่าอาโหว์
หมู่ที่/หมู่บ้าน
ตำบล มะนังยง อำเภอ ยะหริ่ง จังหวัด ปัตตานี
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
นางสาวรอกีเยาะห์ สาแล๊ะ
บุคคลอ้างอิง รอกีเยาะห์ สาแล๊ะ อีเมล์ Korkee_ya@hotmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอยะหริ่ง
เลขที่ ๑๓๕/๒ หมู่ที่/หมู่บ้าน
ตำบล ยามู อำเภอ ยะหริ่ง จังหวัด ปัตตานี
โทรศัพท์ ๐๘๙-๕๙๖๗๒๑๙
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่