จังหวัดพังงา เป็นจังหวัดที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ “แร่ดีบุก” ดังคำขวัญจังหวัดพังงาที่ว่า “แร่หมื่นล้าน บ้านกลางน้ำ ถ้ำงามตา ภูผาแปลก แมกไม้จำปูน บริบูรณ์ด้วยทรัพยากร” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ “แร่ดีบุก”
ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยชาวจีนอพยพเข้ามาทำเหมืองแร่ดีบุก ซึ่งในภายหลังหลังจากชาวจีนได้อพยพกลับแผ่นดินจีนไปแล้ว คงเหลือไว้แต่ชาวบ้านที่คิดค้นหาวิธีทำเหมืองแร่ให้ได้ผลผลิตมากที่สุด บ้างก็ใช้เครื่องกลหนักมาทำ แต่ก็มีชาวบ้านบางกลุ่มที่ได้นำภูมิปัญญาชาวบ้านอย่างการใช้ “เรียง” ซึ่งเป็นอุปกรณ์ร่อนแร่ มาหาแร่ตามบริเวณชายฝั่งทะเล ในคูน้ำ ในบึง ยามเมื่อเวลาฝนตกน้ำก็จะไหลเป็นทางลงมาซึ่งมีแร่ดีบุกปะปนอยู่ด้วย ชาวบ้านก็จะคุ้ยดินใส่ในเรียงแล้วนำไปร่อนหา นำขยะออก ก็จะได้แร่ดีบุกออกมา ซึ่งเป็นนับได้ว่าเป็นวิถีชีวิตของคนสมัยก่อนที่ได้กลายมาเป็น “ระบำร่อนแร่” ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนสมัยก่อนให้ได้คงอยู่คู่ลูกหลานจังหวัดพังงาต่อไป
นอกจากนี้ การแต่งกายของ “การแสดงระบำร่อนแร่” ยังสะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรมในจังหวัดพังงา ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “ชาวมุสลิม” ที่สะท้อนวัฒนธรรมผ่านการแต่งกาย เสื้อญ่าญ๋า และผ้าถุงผ้าปาเต๊ะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นพังงา
โดย “การแสดงระบำร่อนแร่” นี้ จะใช้แสดงเนื่องในโอกาสต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองที่มา เพื่อบอกให้เขารู้ว่านี่คือจังหวัดพังงา นี่คือวิถีชีวิตของชาวพังงา หรือในงานรื่นเริงทั่วไป
เพลงที่ใช้บรรเลง ใช้เพลงตะลุงชาตรี ตั้งแต่ ๓ ชั้น ๒ ชั้น และชั้นเดียว ซึ่งเป็นบทเพลงของภาคใต้อยู่แล้ว