บ้านเปาะยานิ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาจากผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชนเกี่ยวกับที่มาของบ้านเปาะ ยานิว่า ในสมัยโบราณมีวิญญาณนักรบ ๒ คน ชื่อยานะ เป็นพี่ และยานิซึ่งเป็นน้องโดยวิญญาณของยานะสันนิฐานว่าอยู่บริเวณรอยต่อของจังหวัด ยะลาและปัตตานี บริเวณอำเภอยะรังส่วนวิญญาณของยานิ ได้อาศัยอยู่กับตา ยาย ๒ คน ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ของหมู่ที่ ๓ ตำบลสะเตงนอกเดิมทียานิได้มาเยี่ยมเยียนตา ยาย ทั้งคู่ โดยที่ตา ยาย ไม่ทราบว่ายานิเป็นวิญญาณ แต่เนื่องจากในบริเวณนั้นไม่มีบ้านคนอาศัยและยานิก็มาหาท่านทั้ง ๒ ทุกวัน วันหนึ่งยายได้ซุ่มหลังต้นไม้ เมื่อยานิมา ยายก็เข้าจับตัวยานิทางด้านหลัง จึงได้รู้ว่ายานิเป็นวิญญาณ ต่อมายานิจึงมาอาศัยกับตา ยาย โดยตา ยาย ได้ให้ยานิช่วยดูแลบ้าน ดูแลรักษาสัตว์เลี่ยง วันหนึ่งตาเดินทางไปประเทศมาเลเซีย ยานิขอตามตาไปด้วย แต่ตาให้ยานิอยู่ดูแลยาย บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงเทนตา ซึ่งตาได้เสียชีวิตที่ประเทศมาเลเซีย ยานิบอกยายและพาศพของตามาไว้ที่บ้าน เมื่อตาเสียชีวิตแล้ว ยายจึงวางแผนเพื่อให้ยานิไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากยานิเป็นผู้ชาย จะอยู่ร่วมกันไม่ได้ จึงได้ไปคั่ว ถั่ว งา ข้าวโพด และให้ยานิไปปลูกบนภูเขาซึ่งปัจจุบันเป็นบริเวณหมู่ที่ ๓ ตำบลสะเตงนอก และกำชับว่าให้ปลูกพืชให้ออกผลก่อนจึงจะกลับมาบ้านได้ ยานิจึงเฝ้าอยู่บริเวณที่ได้ปลูก ถั่ว งา ข้าวโพด จนถึงปัจจุบันนี้ยานิเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านในบริเวณนั้น ชาวบ้านมักจะฝากสวนสัตว์เลี้ยงให้ยานิช่วยดูแลเสมอ หากใครเข้าไปทำมาหากินใน พื้นที่นั้น และไม่นึกถึงยานิ ก็อาจจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น เช่น เห็นงูตัวใหญ่ หรืออาจขับรถชนต้นไม้ ส่วนสิ่งที่ใช้ในการบูชายานิ หากเป็นชาวมุสลิมจะเป็น โกปี๊ ข้าเหนียวเหลืองและไก่ย่าง หากเป็นชาวจีน เครื่องบูชายานิจะเป็น โกปี๊ โรตีไม่ใส่นมและใบจากยาเส้น ตำนานของยานิจึงเป็นที่มาของ "บ้านเปาะยานิ" หมู่ที่ ๓