เมืองป่าซาง ในอดีตเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญในการป้องกันข้าศึก ที่ยกมาตีเมืองล้านนาไทยอันได้แก่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งตามพงศาวดารโยนกบันทึกไว้ว่า ปี พ.ศ. 2304 พม่าได้ยกกองทัพมาตีเชียงใหม่และลำพูน และในปี พ.ศ. 2306 ลำพูนก็ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า จนถึง พ.ศ. 2308 ชาวลำพูนจึงรวบรวมกำลังต่อสู้ชิงเมืองคืนได้สำเร็จ ต่อมาพม่าได้ยกทัพมาตีเมืองลำพูนกลับคืนได้ในปี พ.ศ. 2309
ปี พ.ศ. 2317 พระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่และเมืองลำพูนคืนมาจากพม่า โดยการช่วยเหลือของพญาจ่าบ้านและพญากาวิละ โดยมาตั้งรับพม่าอยู่ที่ป่าซาง ในการทำศึกครั้งนั้นพม่าพ่ายแพ้ต้องถอยกลับพญาจ่าบ้านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพญาวิเชียรปราการ และพญากาวิละได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ครองเมืองเชียงใหม่และเมืองลำพูน ในช่วงเวลานั้นเนื่องจากสภาวะสงครามเชียงใหม่และลำพูนเหลือประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนน้อยพญากาวิละจึงให้เจ้าศรีบุญมาอุปราชไปทำการ อพยพราษฏรจากสิบสองปันนามาอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่และลำพูนเรื่อยมาจนถึงป่าซาง อันเป็นเหตุให้ชาวไทยยองอาศัยอยู่หลายท้องที่ในอำเภอป่าซางเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ในปี พ.ศ. 2330 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พม่าได้ยกทัพมาตีหัวเมืองล้านนาไทยอีก ในครั้งนี้พญากาวิละยกทัพมาตั้งรับพม่าที่ป่าซาง ในการทำศึกครั้งนี้พม่าประสบความพ่ายแพ้และนับแต่นั้นมาก็มิได้ปรากฏว่ามีทัพพม่าหรือข้าศึกเข้ามารุกรานหัวเมืองล้านนาไทยอีกเลย
ถึงปี พ.ศ. 2443 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริหารราชการแผ่นดินมาเป็นกระทรวง ทบวง กรม มีการจัดตั้งหน่วยงานราชการเป็นแขวง ซึ่งป่าซางเรียกชื่อว่า "แขวงปากบ่อง" เนื่องจากที่ตั้งของที่ว่าการอำเภออยู่ริมแม่น้ำกวง ในเขตหมู่ที่ 1 ตำบลปากบ่อง จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. 2495 จึงย้ายที่ว่าการอำเภอมาอยู่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน คือ บ้านป่าซาง หมู่ที่ 1 ตำบลป่าซาง และเปลี่ยนชื่อมาเป็น อำเภอป่าซาง มาจนถึงปัจจุบัน
อณาเขตของอำเภอป่าซาง
ทิศเหนือ ติดต่อกับพื้นที่อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ทิศใต้ ติดต่อกับพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
ทิศตะวันออก ติดต่อกับพื้นที่อำเภอเมืองลำพูนและอำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน
ทิศตะวันตก ติดต่อกับพื้นที่อำเภอบ้านโฮ่งและอำเภอเวียงหนองล่อง จังหวัดลำพูน