ประวัติหลวงพ่อหิน
เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อปี 2502 เจ้าคุณเมธีธรรมประนาท เจ้าอาวาสวัดท่าฬ่อ เกิดนิมิตเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่สวยงามมาก ท่านดีใจและอยากได้มาเป็นมิ่งขวัญศิริมงคลแก่วัด จึงขอร้องญาติโยมให้ช่วยสืบหาพระพุทธรูปในนิมิตนั้นและพบว่ามีอยู่จริง แต่มีเฉพาะเศียร เป็นหินแกะสลักสวยงามมาก อยู่กับคบไม้ (ต้นไทร) บ้านชาละวัน ตำบลสนามคลี ชาวบ้านเล่าว่าเศียรพระพุทธรูปนี้ แต่เดิมมีคนนำมาจากแถว ๆ วัดมหาธาตุ ใกล้ถ้ำชาละวันเมืองเก่า ใครนำไปก็มีอันเป็นไป ต้องนำมาคืนไว้ที่ต้นไทรตามเดิม เจ้าคุณเมธีธรรมประนาท จึงได้ไปที่ต้นไทรนั้น เห็นเศียรพระโผล่ออกมาจากคบไม้เล็กน้อย (คบไม้หุ้มไว้) จึงได้จุดธูปสักการะและอธิษฐานเสี่ยงทายว่า ถ้าเป็นพระคู่บ้าน คู่เมืองของวัดท่าฬ่อจะขออัญเชิญไปอยู่วัดท่าฬ่อ ให้บังเกิดความเงียบสงัด ถ้าไม่ยินดีจะไปอยู่ให้เกิดสิ่งอัศจรรย์ทันตาเห็น จากนั้นทุกอย่างเงียบสงัดเป็นเวลาประมาณ 5 นาที เมื่อเป็นดังคำอธิษฐานจึงได้ใช้ขวานบากคบไม้นำเอาเศียรพระพุทธรูปออกมา นำไปไว้ที่วัดท่าฬ่อและติดต่อช่างจากสุโขทัย มาประกอบเป็นองค์พระได้สำเร็จงดงามให้เรียกชื่อว่า พระพุทธศิลามหามุนีนาถ (หลวงพ่อหิน) เป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนทั่วไป
ปัจจุบันหลวงพ่อหิน ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงพ่อหิน วัดท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
ความสำคัญ
เป็นพระพุทธรูปสำคัญของจังหวัดพิจิตร และอำเภอเมืองพิจิตร ที่ประชาชนมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ มาสักการะบูชาอยู่เสมอๆ
ลักษณะของสิ่งของ
หลวงพ่อหิน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พระอิริยาบถประทับนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาวางคว่ำที่พระชานุ หน้าตักกว้าง 25 นิ้ว สูง 30 นิ้ว สลักด้วยหินทราย
สภาพเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชีพด้านเกษตรกรรม มีการพัฒนาสู่ด้านอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า บริการจำหน่าย และค้าขาย สังคมมีขนาดครอบครัวที่เล็กลง
สถาปัตยกรรม (ยุคสมัย). สันนิษฐานว่าเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย
การใช้ประโยชน์ในปัจจุบัน สักการะบูชา
ผู้ครอบครอง/หน่วยงานผู้ดูแล พระครูพิจิตรวรเวท เจ้าอาวาสวัดท่าฬ่อ หมู่ 2 ตำบลท่าฬ่อ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร 66000 โทรศัพท์ 08 9565 6448