บ้านหนองแจง เป็นถิ่นกำเนิดของกรุพระเครื่องหลัก ประเภทพระเนื้อชินสนิมแดง พระที่แตกกรุออกมานั้น เป็นพระเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงล้วนๆ มีหลายพิมพ์ เป็นที่นิยมเล่นหากันในแวดวงพระเครื่อง และมีชื่อเสียงมากกรุหนึ่งของ จ.สุพรรณบุรีง
บ้านหนองแจง อยู่หมู่ ๔ ต.ไร่รถ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ใกล้ชายเขตแดน ต.เลาขวัญ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ในสมัยที่มีการขุดพบพระต่างๆ ในกรุนั้น บ้านหนองแจงถือเป็นหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญมาก การเดินทางไปมาลำบาก เหมือนอยู่ในป่าที่แสนกันดาร เมื่อวันที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๐๘ ได้มีชาวไร่ผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนจีน เช่าที่ดินบริเวณบ้านหนองแจงนี้จากสมุห์บัญชี อ.สองพี่น้อง เพื่อปลูกข้าวโพด อาณาบริเวณที่ทำไร่นั้น มีเศษกระเบื้องจำนวนมาก จำเป็นต้องเกลี่ยดินพร้อมขุดเพื่อปลูกข้าวโพด บังเอิญไปพบ ไหโบราณ ซึ่งภายในไหบรรจุพระเครื่องเนื้อชินตะกั่วสนิมแดงจำนวนมาก เมื่อชาวบ้านทราบเรื่องว่าพบพระกรุ ต่างก็มาแย่งกันขุดหาพระกัน โดยไม่เกรงใจเจ้าของที่ดิน อาณาบริเวณที่ดินเหล่านั้น จึงถูกขุดค้นหาพระแบบชุลมุน เละเทะไปหมดแทบทุกจุด ก็มีการพบพระมากพอควร
ต่อมาอีก ๒-๓ วัน ชาวบ้านเฮโลขุดหาพระกันทั่วทั้งบาง ได้พบพระกระจัดกระจายตามพื้นดิน อีกจำนวนไม่มากนัก ระยะแรกๆ ที่ขุดพบพระ ไม่ค่อยมีใครสนใจกันมากนัก พระองค์หนึ่งแลกกับสุรา ๓๐ ดีกรี (๗ บาท) ได้ ๑ ขวด ต่อมาเริ่มมีค่ามากขึ้น เปลี่ยนเป็นแลกข้าวสารได้ ๑ ถัง (ประมาณ ๒๕ บาท) จากนั้นราคาค่อยขยับขึ้นสูงขึ้น โดยซื้อขายเป็นเงินสดองค์ละ ๒๐๐-๓๐๐ บาท
พระที่ขุดพบมีหลายพิมพ์ อาทิ พิมพ์รัศมี พิมพ์เศียรโต พิมพ์พระพักตร์เสี้ยม พิมพ์จรวดอ้วน พิมพ์จรวดผอม พิมพ์ยกซ้ายที่มีสร้อยพระศอ พิมพ์เทริดขนนก พิมพ์แขนอ่อน พิมพ์สบงก้างปลา ฯลฯ พระเครื่องดังกล่าวล้วนเป็นพระพิมพ์ในสกุลพระร่วงทั้งหมด มีทั้งแบบนั่งและยืน โดยช่างที่สร้างในสมัยอู่ทอง ได้ออกแบบพิมพ์พระในลักษณะ ศิลปะอู่ทองผสมลพบุรี แบบล้อพิมพ์ ศิลปะงดงามอลังการพอควร ไม่เป็นรองพระยุคลพบุรี ที่เข้มขลังกว่ามากนัก นอกจากนี้ยังขุดพบพระพิมพ์ที่เหมือนกับ พระร่วงหลังลายผ้า ซึ่งเป็นศิลปะแบบลพบุรี อยู่ในกรุนี้ด้วย
ช่วงต่อมาอีกในราวอีก ๓-๔ ปี มีการขุดพบ พระนาคปรก ศิลปะงดงามมาก โดยพบเพียงอีกไม่กี่องค์เท่านั้น พระร่วงกรุหนองแจง ทั้งหมดที่ขุดพบ เป็นพระเนื้อตะกั่วสนิมแดงจัด มีสีแดงเข้มสด พร้อมทั้งมีไขขาวมันวาว เกาะหุ้มคลุมอยู่ทั่วองค์พระอีกชั้นหนึ่ง ทำให้องค์พระแลดูสวยงามมากยิ่งขึ้น