ชื่อ นางสุภา แสงสว่าง ชื่อเรียกขานเฉพาะ แม่สุภา
ประวัติส่วนตัว เกิดวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๕ อายุ ๕๐ ปี ที่อยู่ปัจจุบัน
เลขที่ ๒/๖๗๖ หมู่ที่ ๕ ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์๐๘๙๐๘๔๘๘๑๑
ความสำคัญ เป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทำขนมไทยพื้นบ้าน ที่สามารถยกระดับ
คุณภาพงาน ด้านการทำขนมบ้าบิ่น โดยการนำมะพร้าวมาแปรรูปผสมแป้งน้ำตาลนำไปอบให้แห้งจนเป็นขนมบ้าบิ่นที่มีชื่อเสียงของอำเภอท่าเรือ
ผลงาน ได้แก่ "ขนมบ้าบิ่นแม่สุภา "อำเภอท่าเรือ เป็นสูตรเฉพาะรางวัลที่ได้รับ
๑. ผลิตภัณฑ์ดีเด่นระดับ ๕ ดาว ได้รับรองมาตรฐาน อย.จากสาธารณสุขจังหวัด
พระนครศรีอยุธยา
ประวัติความเป็นมา ขนมบ้าบิ่นเกิดขึ้นในชุมชนวังแดงหน้าวัดวังแดงใต้อยู่ตรงข้ามกัน
กับบ้านแม่เสียน เอิบกมล ต้นตำหรับจากย่าคร้าม ปู่ปลอด เอิบกมล ซึ่งทำขนมบ้าบิ่นขายที่มีชื่อเสียงโด่งดังอยุ่ที่อำเภอท่าเรือ ตำบลวังแดงยังมีขนมบ้าบิ่นขายเหมือนกันกับของแม่เสียน เป็นของนายโต นางปัด ชีตารักษ์ชาวบ้านวังแดงเหมือนกันปลุกบ้านอยู่ติดๆกัน ซึ่งต้นตำหรับมาจากย่าคร้าม ปู่ปลอดเช่นกัน ซึ่งเป็นพ่อของนายโชติ นางแหวน ต้นตระกูล "เอิบกมล " ซึ่งเป็นเจ้าของคานเรือ ประวัติความเป็นมาของขนมบ้าบิ่นจะผูกพันกันมาเป็นลูกโซ่ เนื่องจากว่าพ่อโชติ แม่แหวน มีคานเรือ เมื่อมีคานเรือก็จำเป็นต้องใช้กะลามะพร้าวเพื่อเผาเพรียง (หอยที่เจาะกินเนื้อไม้) ใต้ท้องเรือ ส่วนเนื้อมะพร้าวจึงเอาไปใช้ทำขนมกินกัน สมัยก่อนเมื่อเรือไปมาสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องติดเรือไว้ก็คือ มะพร้าว แป้ง น้ำตาล เนื่องจากต้องใช้กะลาเผาเพรียงเรือให้ตาย ดังนั้นเนื้อมะพร้าวก็ยังสามารถนำมาใช้ทำขนมที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นขึ้นมา
ทำไมจึงเรียกขนมบ้าบิ่น เนื่องจากขนมบ้าบิ่นทำยาก เริ่มตั้งแต่การขูดมะพร้าวสมัยก่อน
ไม่มีเครื่องขูด ตอนนั้นใช้เครื่องขูดชนิดหนึ่งที่เป็นไม้แบน ๆ มีห่วงกลม ๆ อยู่ปลายไม้ เรียกว่า "ตีนแมว" ถ้าขูดมะพร้าวเพียงลูกเดียวคงขูดแบบเนื่อย ๆได้แต่ถ้าต้องขูดหลายลูก ที่ใช้ทำขนมคงขูดเนือยๆไม่ได้ จึงต้องใช้แรงมากในการขูด เหมือนกับการขูดแบบบ้าบิ่น มะพร้าวมีกะลา มีขุย ถ้าขูดไม่หมดก็จะติดลงไปในเนื้อมะพร้าวดูไม่น่ากิน ต้องใช้มีดลืนเกลาให้ขุยออกหมดและต้องเกลาอย่างบ้าบิ่น สมัยโบราณแป้งสำเร็จรูปไม่มีต้องใช้โม่แป้งหรือตำโขลก ตำเหยาะแหยะก็คงไม่เสร็จ ก็ต้องอาศัยแรงมากในการตำหรือโม่ คล้ายกับต้องทำอย่างบ้าบิ่น สุดท้ายก็คือตอนอบขนมบ้าบิ่น มันร้อนมากต้องเผาข้างบนและเผาข้างล่าง
สรุปจุดกำเนิดที่วังแดงก็เนื่องจากกะลามะพร้าวที่ใช้ในการเผาเพรียง แม่สุภาได้สูตรขนม
นี้มาจากแม่ของสุภาคือแม่เฉลียวเป็นชาวเรือ น่าจะเอาเรือไปขึ้นคาน แม่ของแม่สุภาจึงได้สูตรมาจากการแลกเปลี่ยนเมื่อคราวที่เอาเรือไปขึ้นคานนั่นเอง
ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่าเจ้าแรกที่ขายในท่าเรือชื่อว่า "ป้าบิ๋น" ก็เลยเรียกเพี้ยนมา
เป็น "บ้าบิ่น" จุดเริ่มต้นดังของขนมบ้าบิ่นก็คือ ที่ขายสถานีรถไฟ สมัยก่อนการเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือรถไฟเวลาคนเดินทางผ่านไปมาก็จะซื้อขนมบ้าบิ่นที่สถานีรถไฟท่าเรือ
ปัจจุบันขายบรรจุกล่องละ ๔ ชิ้น ๑๐ บาท ,๑๒ ชิ้น ๓๕ บาท หาซื้อได้ที่ร้านข้าวแกง
บ้านสวนวังน้อยและตามที่สั่งทำ และส่งขายโรงงานแถวโคราช