โปง คือเครื่องมือที่ใช้เพื่อเป็นสัญญาณสื่อถึงกิจกรรมของพระสงฆ์ ซึ่งจะมีสองกิจกรรมในช่วงเช้าและช่วงเย็น ในตอนเช้าตีโปงเมื่อพระภิกษุออกบิณฑบาต เรียกว่าโปงเช้า และในตอนเย็นตีโปงเมื่อพระภิกษุลงอุโบสถเพื่อไหว้พระสวดมนต์ในตอนเย็น เรียกว่าโปงแลง ดังนั้นหน้าที่รองของสัญญาณโปงจึงทำให้คนในชุมชนที่อยู่ใกล้วัดนั้นได้ทราบถึงเวลาด้วย และอาจมีการใช้ตีเพื่อรวมคนหรือตีเพื่อเป็นสัญญาณบอกเหตุผิดปกติต่าง ๆ ในชุมชนก็ได้
โปงมีรูปร่างคล้ายระฆังทรงตรงขนาดใหญ่ ทำจากโลหะหรือไม้ก็ได้ หากทำจากไม้จะใช้ไม้เนื้อแข็งเช่น ไม้ประดู่
ส่วนใหญ่จะมีความยาวประมาณ 2 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร มีหูสำหรับแขวนไว้บนคานไม้
การทำโปงจะเริ่มจากหาไม้เนื้อแข็งที่ไม่มีโพรง และไม่มีแมลงเจาะ ไม้ที่ใช้อาจจะเป็นไม้หมากหาด ไม้ตะเคียน ไม้ประดู่ เป็นต้น นำไม้เนื้อแข็งที่ได้ไปถากให้เป็นรูปทรงโปง แล้วเจาะภายในเนื้อไม้ให้เป็นโพรง
แล้วทำหูโปงสำหรับแขวนกับหลักหรือคานไม้
ถ้าต้องการให้มีเสียงกังวาน จะต้องขุดแต่งโพรงให้เป็นทรงกรวยสอบขึ้นไปจนทะลุหัวโปงเป็นรูเล็ก ๆ ที่เรียกว่า รูแพ นอกจากนี้การแขวนโปงควรแขวนให้ห่างจากพื้นดินประมาณ 1 คืบ ฝังหม้อหรือไหไว้ในดิน ให้ตรงกับปากโปง ซึ่งจะช่วยเป็นตัวสะท้อนเสียงของโปง ทำให้มีความดังมากขึ้นกว่าเดิม
ที่บ้านคอนสาย ตำบลทราบมูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นอกจากจะมีชื่อเสียงในการทำฆ้องแล้ว ก็ยังสามารถทำโปงไม้ไว้สำหรับขายไปทั่วประเทศด้วย