ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นตำนานของปราชญ์ท้องถิ่น วิถีชีวิตชาวบ้าน ตลอดจนวัฒนธรรมที่ดีงามของการเรียนรู้ เป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถพัฒนาสังคมแห่งการเรียนสังคมเอื้ออาทร สังคมภูมิปัญญา มนุษย์รู้จักมะพร้าวมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล มะพร้าวเป็นอาหาร ทำน้ำมัน และทำเป็นเครื่องปรุงอาหารหวานคาวนานาชนิด มะพร้าวจึงถือเป็นพืชที่มนุษย์ทุกชาติทุกภาษารู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี ในสมัยโบราณกะลามะพร้าว ได้รับการประดิษฐ์เป็นจับปิ้งเพื่อห้อยเป็นเครื่องปกปิดอวัยวะเพศของเด็ก ผู้หญิง โดยทั่วไปเครื่องปกปิดอวัยวะเพศของเด็กผู้หญิงนั้น ในหมู่ผู้มีฐานะจะทำด้วยเงินทองหรือนาก แต่ชาวบ้านที่มีความเป็นอยู่ไม่ดีนัก ก็ใช้จับปิ้งกะลา มะพร้าวจึงมีอรรถประโยชน์นานาประการ กะลามะพร้าวนั้นเคยทำเป็นของใช้ประเภทขันตักน้ำ กระบวยตักน้ำ และทำเป็นป้อยตวงข้าวสารสำหรับหุงข้าวกันมาช้านาน หากเป็นกะลาใหม่ ๆ ก็สามารถนำมาใส่อาหารรับประทาน โดยเมื่อรับประทานเสร็จแล้วก็สามารถทิ้งไปได้เลยเช่นเดียวกับการใช้ถ้วยชามโฟมหรือกระดาษที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน ปัจจุบันมะพร้าวหรือกะลามะพร้าวสามารถนำมาประดิษฐ์ จัดการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณค่าได้มากมาย นอกจากทำเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนแล้ว ยังสามารถประดิษฐ์เป็นของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับและเครื่องแต่งกายสุภาพสตรี และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้อีกมากมาย
ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวของชุมชนคุณธรรมฯ บ้านไดรัง วัดธรรมสังเวช อำเภอดงเจริญเกิดขึ้นจากอำเภอดงเจริญ ทำนาได้ปีละ ๑ ครั้ง เมื่อเว้นว่างจากการทำนา จึงต้องหาอาชีพเสริม และเห็นวัสดุเหลือใช้มีจำนวนมาก คือกะลามะพร้าว สามารถที่จะนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้ จึงเริ่มต้นจากการนำกะลามะพร้าวมาผลิตเป็นของใช้ในครัวเรือน เช่น ที่ตักน้ำ ที่ตักข้าวสาร ต่อมาจึงเริ่มคิดประดิษฐ์ทำเป็นเครื่องประดับ เช่น ทำเข็มขัด สร้อยข้อมือ ต่างหู เข็มกลัดติดเสื้อ ยางรัดผม ปิ่นปักผม เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวเป็นงานหัตถกรรม โดยต้องอาศัยช่างที่มีฝีมือ และความละเอียด โดยนายนิคม แก้วชาลี และนางสุภาพ แก้วชาลี คู่สามรภรรยาเป็นผู้ประดิษฐ์ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบพัฒนาขึ้นให้มีความหลากหลาย ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ทำเป็นเครื่องประดับ เครื่องใช้ภายในบ้าน ของตกแต่ง และของที่ระลึก
๑. วัตถุประสงค์
๑) เป็นการสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือน
๒) เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาของปราชญ์ท้องถิ่น วิถีชีวิตชาวบ้านที่มีมานาน
๓) เพื่อให้ตระหนักและเห็นคุณค่ามรดกทางศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น
๔) เป็นการส่งเสริมพัฒนาต่อยอด โดยการนำทุนทางวัฒนธรรม วัสดุจากธรรมชาติ จากสิ่งที่เหลือใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่นนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สร้างมูลค่าและอาชีพให้กับคนในชุมชน
รางวัล/เกียรติคุณที่ได้รับ
เป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของอำเภอดงเจริญ ได้รับรางวัล OTOP ระดับ ๕ ดาว
วัสดุ/อุปกรณ์ (พวงกุญแจการกะลามะพร้าว)
๑) กะลามะพร้าว
๒) วงเลื่อยฉลุ
๓) ใบเลื่อยฉลุ
๔) กระดาษทรายแดง เบอร์ ๘๐
๕) กระดาษทรายละเอียด เบอร์ ๒๘๐
๖) กาวลาเท็กซ์
๗) แล็คเกอร์เคลือบเงา
๘) ห่วงพวงกุญแจ
กระบวนการ/ขั้นตอน (ทำอย่างไร)
๑) คัดเลือกกะลามะพร้าวให้เหมาะสม โดยเลือกใช้กะลาแก่จัด
๒) ขัดผิวกะลา นำกะลาที่คัดแล้ว ขูดขุยให้เกลี้ยงตัดด้านบนเพื่อนำน้ำและเนื้อมะพร้าวออก ให้เหลือเฉพาะเนื้อกะลา จากนั้นนำไปขัดด้วยกระดาษทราย ให้ผิวกะลาเรียบทั้งในและนอกตัวกะลา
๓) นำกะลาที่ได้ไปตากแดดให้แห้งสนิท
๔) ออกแบบแต่ละชิ้นงาน โดยวาดลวดลายตามต้องการให้สวยงาม หากจะทำเป็นพวกกุญแจสามารถออกแบบลายพวกกุญแจที่ต้องการลงในกระดาษก่อน แล้วค่อยนำกาวลาเท็กซ์มาทาบนกระดาษที่ได้ร่างลายไว้ แล้วนำมาแปะไว้บนกะลา จากนั้นนำกะลามาเจาะรู ฉลุลวดลายตามแบบที่ร่างไว้ โดยใช้วงเลื่อยฉลุ
๕) นำกระดาษทรายมาขัดกะลาให้เกลี้ยง
๖) นำชิ้นงานมาเจาะรูเพื่อเตรียมไว้เพื่อใส่ห่วงพวงกุญแจ
๗) นำชิ้นงานที่ได้มา เคลือบเงาเพื่อให้สวยงาม และตากแดดให้แห้ง
๘) ประกอบชิ้นงาน โดยการนำตัวพวงกุญแจ มาใส่ห่วงพวกกุญแจให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ มีสีลวดลายธรรมชาติของกะลามะพร้าวที่สวยงาม
- เป็นงานแฮนด์เมด
- เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาต่อยอดจากภูมิปัญญาที่ดั้งเดิมจากวิถีชีวิต
- เป็นงานละเอียด แข็งแรงทนทาน
- สามารถนำมาประดิษฐ์ จัดการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มคุณค่าได้มากมาย
ราคาสินค้า
- พวงกุญแจ ราคา ๑๐ บาท
- กำไลข้อมือ ราคา ๒๐-๓๐ บาท
- ที่มัดผม ราคา ๒๐-๓๐ บาท
- เข็มขัด ราคา ๑๕๐-๒๐๐ บาท
- กระเป๋ากะลา ๓๕๐-๖๐๐ บาท
หมายเหตุ :ราคาสินค้าขึ้นอยู่กับชนิด ประเภท และความยากง่ายในการผลิตสินค้า
คุณค่าและบทบาทของวิถีชุมชนที่มีต่อองค์ความรู้เรื่องนี้
๑)คุณค่าขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากกะลามะพร้าวของชุมชนคุณธรรมฯ วัดธรรมสังเวช อำเภอดงเจริญ สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่แสดงถึงวิถีการดำเนินชีวิต ความคิด ความเชื่อ ค่านิยม จารีต ประเพณี และภูมิปัญญาของคนในชุมชน อันบ่งบอกถึงความเป็นอัตลักษณ์อันสะท้อนถึงวิถีชีวิต อันเรียบง่าย ที่ได้นำทุนทางวัฒนธรรม วัสดุจากธรรมชาติ จากสิ่งที่เหลือใช้ที่มีอยู่ในท้องถิ่นนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สร้างมูลค่าและอาชีพให้กับคนในชุมชน
๒)บทบาทของชุมชนในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
ผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์จากกะลามะพร้าวของชุมชนคุณธรรมฯ วัดธรรมสังเวช อำเภอดงเจริญ เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ ของนางสุภาพ แก้วชาลี สมาชิกกลุ่มอาชีพของตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร จากการว่างงานจากการทำนา ปีละ ๑ ครั้ง และสภาพพื้นที่ก็เป็นพื้นที่แห้งแล้ง ทำนาได้ปีละ ๑ ครั้ง เมื่อเสร็จจากการทำนา ก็ว่างงาน นางสุภาพจึงเกิดความคิดว่า วัสดุสิ่งของเหลือใช้ในพื้นที่มีมากมาย สามารถที่จะนำมาประดิษฐ์เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นในครอบครัว จึงคิดว่ากะลามะพร้าวที่เป็นวัสดุเหลือใช้สามารถนำมาต่อยอดในการทำสิ่งประดิษฐ์เป็นของใช้ในครัวเรือน และต่อมาทำเป็นของตกแต่งบ้าน เช่น ทำโคมไฟ จากนั้นเกิดความคิดสร้างสรรค์นำผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าวมาประดิษฐ์เป็นเครื่องประดับต่าง ๆ เช่น เข็มขัด สร้อยคำ กำไลข้อมือ ฯลฯ และนำมาจำหน่ายเปิดตลาด จนได้เข้าร่วมพิจารณาเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ของอำเภอดงเจริญ ได้รับรางวัล OTOP ระดับ ๕ ดาว และปัจจุบันผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวเป็นสินค้าที่ส่งออกจำหน่าย ไปยังต่างประเทศ มีออเดอร์จากต่างประเทศเป็นประจำ
การสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวของชุมชนคุณธรรมฯ บ้านไดรัง วัดธรรมสังเวช อำเภอดงเจริญ มีการถ่ายทอดภูมิปัญญาองค์ความรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ และทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากกะลามะพร้าว ซึ่งถือเป็นของเหลือใช้ นำมาพัฒนาเพิ่มมูลค่าทำให้เกิดรายได้ โดยเด็กและ เยาวชน ประชาชน และผู้ที่สนใจในพื้นที่ สามารถที่จะรวมกลุ่มกันประมาณ ๕-๑๐ คน เพื่อขอเข้ารับการอบรมเรียนรู้ถึงวิธีและขั้นตอนในการประดิษฐ์ชิ้นงานต่างๆ จากกะลามะพร้าว กับคุณลุงนิคม แก้วชาลี และคุณป้าสุภาพ แก้วชาลี ซึ่งเป็นวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ และทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากกะลามะพร้าว ได้ที่บ้านของคุณลุงนิคมและคุณป้าสุภาพ นอกจากนี้ทั้งคุณลุงนิคมและคุณป้าสุภาพ ยังเป็นวิทยากรภูมิปัญญาท้องถิ่นในการถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการประดิษฐ์ และทำผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากกะลามะพร้าวให้กับหน่วยงานต่างๆ ของอำเภอดงเจริญอย่างสม่ำเสมอ
โดยหน่วยงานในท้องถิ่น คือ บ้าน วัด โรงเรียน ราชการทั้งภายในและภายนอกพื้นที่ รวมทั้งผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นของอำเภอดงเจริญ ได้ให้ความสำคัญ และให้การสนับสนุนในการพัฒนาและสืบสาน ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว และภูมิปัญญาท้องถิ่นในด้านต่างๆ ให้กับเด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชน เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าและยั่งยืนต่อไปอย่างเข้มแข็งและมั่นคง
การส่งเสริม สนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม
จากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร สำนักงานพัฒนาชุมชน อำเภอดงเจริญ สถานศึกษา และส่วนราชการส่วนท้องถิ่น
สถานภาพปัจจุบัน
๑)สถานะการคงอยู่ขององค์ความรู้
มีการปฏิบัติอย่างแพร่หลาย
๒)สถานภาพปัจจุบันของการถ่ายทอดความรู้และปัจจัยคุกคาม
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ทำให้การถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับกลุ่มผู้ที่สนใจ ทำได้น้อยลง
ข้อเสนอแนะ
การพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย ทันสมัย เป็นการขยายฐานการตลาดและฐานของกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ควรเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาดและรายได้อีกทางหนึ่ง