พระปรางค์ทรงกลีบมะเฟือง ตั้งอยู่ที่วัดมหาธาตุ หมู่ที่ 8 ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดมหาธาตุ ใกล้แม่น้ำน้อย กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุสถาน เมื่อพุทธศักราช ๒๔๗๘ สร้างด้วยอิฐถือปูน รูปทรงของยอดกลีบมะเฟืองมีจำนวนได้ ๒๘ กลีบ หมายถึงจำนวนดาวฤกษ์๒๘กลุ่มตามคัมภีร์ของมหายาน (นิกายหินยานถือว่ามี ๒๗ กลุ่ม)นักโบราณคดีหลายท่านกล่าวว่า คงได้รับอิทธิพลจากพระปรางค์กลีบมะเฟืองในศิลปะลพบุรี ดังเช่นที่วัดมหาธาตุจังหวัดลพบุรี น.ณ. ปากน้ำ ได้กล่าวไว้ในวารสารเมืองโบราณ ปีที่ ๑ ฉบับที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๗ เรื่อง สรรค์บุรีนครแห่งความฝัน ตอนหนึ่งว่าพระปรางค์ยอดกลีบมะเฟืองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือหน้าวัด ซึ่งตั้งอยู่ตรงมุมถนน หัวเลี้ยวพอดี มีลักษณะงามสง่าจับใจมาก แม้ว่าขนาดเล็กกะทัดรัดก็งามเป็นพิเศษ พระปรางค์แบบนี้ ยังมีอยู่อีกองค์หนึ่งกลางเมืองสรรค์ อยู่ใกล้กับ วัดสองพี่น้องแต่ขนาดย่อมกว่าเล็กน้อยเทคนิคการก่ออิฐเป็นแบบอู่ทองโดยแท้ คือ ดินสอกับยางไม้ อิฐแนบสนิท พระในซุ้มปรางค์เป็นพระยืนปางรำพึง แบบเดียวกับวัดพระแก้ว เชิงของยอดรูปกลีบมะเฟืองปั้นปูนรูปเทพพนม ติดที่สันกลีบ ทุกกลีบ ใต้ลงมาเป็นบัวหงายและลวดลายซึ่งมีลักษณะคล้ายกับลาย ณ ฐานเจดีย์ สุพรรณบุรีมาก ปรางค์ยอดกลีบมะเฟืองนี้ ลักษณะทรวดทรงสูงระหงคล้ายสตรีร่างสูงโปร่ง เพรียวลม ลักษณะนี้คือลักษณะศิลปะอู่ทองตอนปลาย ปรากฏให้เห็นเด่นชัดหลายแห่งด้วยกัน ซึ่งเราจะเรียกว่า ศิลปะอโยธยา เสียก็ได้ ด้วยศิลปะชนิดนี้ประมาณอายุอยู่ระหว่าง พุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ๑๙ ซึ่งตรงกับสมัยปลายของอาณาจักรอโยธยา ข้อที่สำคัญก็คือวัดที่สร้างในสมัยอโยธยาตามบันทึกของพระราชพงศาวดารเหนือ คือ วัดมหาธาตุ ลพบุรี ก็มีพระปรางค์กลีบมะเฟือง สององค์ มีเทพพนม ประจำเชิงกลีบที่เห็นเด่นชัดคือองค์ด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งเมื่อได้เอากล้องดึงภาพเข้ามาใกล้ถ่ายภาพดูทำให้เห็นใบหน้าของเทพพนม ลักษณะสี่เหลี่ยมปากหนา คิ้วหักมุมเป็นเหลี่ยมลักษณะศิลปะอู่ทอง ซึ่งไม่มีอิทธิพลของศิลปะเขมรปนอยู่เลย เป็นศิลปะอู่ทองรุ่นที่สอง คือ ท่ายังเข้มแข็งทะมัดทะแมง ใบหน้าอวบอิ่ม ส่วนอู่ทองรุ่นที่สามนั้น ใบหน้ายาวรีรูปทรงระหงแบบบางดังปรากฏให้เห็นที่องค์พระพุทธรูปอู่ทองรุ่นนี้ทั่วไป ยิ่งอู่ทองปลายสุดเท่าไร ก็ยิ่งมีทรวดทรงแบบบางยิ่งขึ้นทุกที สังเกตเห็นได้ที่พระพุทธรูปยืนในซุ้มปรางค์ ยอดกลีบมะเฟืองวัดมหาธาตุสรรคบุรี องค์พระพุทธรูปสูงเพรียวเพรียวลมแบบบางมาก พระพุทธรูปแบบบางเช่นนี้ ยังปรากฏที่รูปปูนปั้นหมู่อัครสาวก ๗ องค์ ท่ายืนประนมมือ ด้านทิศใต้ของกลุ่มเจดีย์รายทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุลพบุรี ผู้ที่ไม่เข้าใจในวิวัฒนาการของศิลปะอู่ทองรุ่นสุดท้าย ซึ่งที่ถูกเราควรจะเรียกว่าศิลปะอยุธยานั้น มักจะเหมาเอาว่าพระพุทธรูปทรวดทรงแบบบาง ที่อ้างมานี้ล้วนเป็นศิลปะอยุธยาทั้งสิ้น