วัดวัง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ ๔ บ้านลำปำ ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง ห่างจากศาลากลางจังหวัดพัทลุง ไปทางทิศตะวันออก ถนนสายราเมศวร์ อภัยบริรักษ์ (พัทลุง – ลำปำ) ประมาณ ๗ กิโลเมตร
ความสำคัญ
วัดวัง เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดพัทลุง เป็นวัดโบราณที่มีความสำคัญคู่กับเมืองพัทลุงมาตลอดสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาของข้าราชการเมืองพัทลุงมาแล้วในอดีต จนกระทั่งทางราชการได้ยกเลิกพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และได้มีการย้ายเมืองพัทลุงจากตำบลลำปำไปตั้งที่ตำบลคูหาสวรรค์คือที่ตั้งเมืองปัจจุบัน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ วัดวังก็เริ่มทรุดโทรมลงเรื่อยๆ จนราว พ.ศ. ๒๕๑๒ ทางราชการจึงได้บูรณะซ่อมแซมวัดวังให้มั่นคงถาวรจนกระทั่งทุกวันนี้ วัดวังเป็นวัดที่มีศิลปกรรมควรแก่การศึกษาค้นคว้ามากมาย เช่น อุโบสถก่อด้วยอิฐถือปูน มีระเบียงคดล้อมรอบ ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธานปูนปั้นปางมารวิชัย จำนวน ๔ องค์ (พระพุทธรูปปูนปั้น จำนวน ๑๐๘ องค์) ฝาผนังทั้ง ๔ ด้าน เขียนภาพจิตรกรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นการเล่าเรื่องพระพุทธประวัติและเทพชุมนุม นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง จำนวน ๒ องค์ ธรรมาสน์จำหลักไม้ของรัชกาลที่ ๖ มีอักษรจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร. และ ข้อความว่า “ทรงพระราชอุทิศในงานพระบรมศพ พ.ศ. ๒๔๕๓”
รูปแบบศิลปกรรม
อุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก อุโบสถเดิมมีขนาดเล็กกว่าปัจจุบัน
แต่ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยพระยาพัทลุง (ทับ) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓ ด้านหน้าอุโบสถมีมุขเด็จยื่นออกมา ภายในมุขเด็จ
มีพระพุทธรูปปูนปั้นประทับนั่งห้อยพระบาทปางป่าลิไลยก์ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทองปางมารวิชัย จำนวน ๔ องค์ ประดิษฐานบนฐานชุกชีย่อมุมไม้สิบสอง พระประธานขนาดหน้าตักกว้าง ๒ เมตร มีพระสาวกปูนปั้นประทับยืนพนมมือ ด้านขวามือของพระประธานขนาดห้าตักกว้าง ๒ เมตร
มีพระสาวกปูนปั้นประทับยืนพนมมือ ด้านขวามือของพระประธานมีพระพุทธรูปสำริด ทงเครื่องปางห้ามสมุทธ
(ถูกขโมยไปเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๙) ด้านซ้ายมือของพระประธานมีพระพุทธรูปจำหลักไม้บุด้วยโลหะทรงเครื่อง
ปางอุ้มบาตร ๑ องค์ ผนังอุโบสถด้านหน้าตอนใน มีรูปยายแก่ปูนปั้นนั่งชันเขาขวาบนโต๊ะสี่เหลี่ยมก่อด้วยปูน ชาวบ้านเรียกว่า “ยายโอ”หรือ“ยายทองคำ” ผนังอุโบสถทั้ง ๔ ด้าน เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นเรื่องพุทธประวัติ เทพชุมนุมทั้ง ๔ ด้าน รอบอุโบสถมีระเบียงคดล้อมรอบภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น จำนวน ๑๐๘ องค์
เจดีย์ มีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง จำนวน ๒ องค์ อยู่ทางด้านทิศใต้และทิศเหนือของอุโบสถ ฐานเจดีย์เป็นชุดฐานสิงห์ย่อมุม องค์ระฆังทรงเหลี่ยมย่อมุมรับกับฐาน ด้านหลังอุโบสถ์มีเจดีย์ทรงกลีบมะเฟือง ๑ องค์ เจดีย์ทรงกลม ๕ องค์และเจดีย์ทรงกลมอง๕ใหญ่อยู่มุมกำแพงวัดด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือก่อด้วยอิฐถือปูน ตามประวัติว่าพระยาพัทลุง (ทับ) สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๐๓
กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ๒ ครั้ง ครั้งแรกขึ้นทะเบียนโดยมิได้กำหนดแนวเขต ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ วันที่ ๘ มีนาคม ๒๔๗๘ ครั้งที่ ๒ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๐๒ ตอนที่ ๑๐๘ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ หน้า ๑๕๑ (ฉบับพิเศษ) พื้นที่ประมาณ ๙ ไร่ ๑ งาน ๔๖ ตารางวา